วิธีการเลือก ลู่วิ่งไฟฟ้า…ให้ดีและคุ้มราคา

458

สำหรับสาวๆที่ชอบออกกำลังกายแต่ไม่อยากต้องเสียเวลาออกมาใช้บริการฟิตเนส ต้องมาแย่งกับคนหมู่มาก ลู่วิ่งไฟฟ้า ถือว่าเป็นเครื่องออกกำลังการที่ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้ที่บ้านได้
ลู่วิ่งไฟฟ้าลู่วิ่งไฟฟ้า (Running Machine)   เป็นเครื่องออกกำลังกายที่นิยมากๆ ใครไม่ชอบออกไปวิ่งท้าแสงแดด ลู่วิ่งนี้ช่วยตอบโจทย์คุณได้คะ  เราสามารถปรับได้ทั้งแบบเดิน เดินเร็ว วิ่ง วิ่งแนวดิ่ง ก็ได้คะ อยากวิ่งตอนไหนก็ทำได้ตลอด วิ่งไปดูทีวีไปก็ฟินดีนะคะ ไม่น่าเบื่อ

การเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า นั้นจำเป็นต้องพิจารณาในส่วนต่างๆ ดังนี้

1. แรงม้า (Horsepower / HP) เราไม่จำเป็นจะต้องเสียเงินเกินความจำเป็นที่ต้องเลือกใช้แรงม้าสูงเกินไป สำหรับผู้ที่เน้นเดิน อาจจะต้องหัวเข่าไม่ดี หรืออายุเยอะ ก็เลือกมอเตอร์ 1 แรงม้าก็เพียงพอ แต่ใครต้องการใช้ทั้งเดิน-วิ่งในเวลาเดียวกันก็เลือกมอเตอร์ 2-3 แรงม้า ซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้ในบ้านแล้วนะคะ ส่วนมอเตอร์แรง 4 แรงม้าขึ้นไป นั้นมักนำไปใช้กันในฟิตเนสเสียมากกว่าคะ ซึ่งอาจเกินความจำเป็นสำหรับเรา และลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีกำลังมอเตอร์สูงอาจจะตามมาด้วยเสียงดังรบกวนได้คะ

2. ความเร็วลู่วิ่ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับมอเตอร์ของเครื่องคะ หากเราใช้วิ่งที่บ้าน ความเร็วสูงสุดประมาณ 14-22 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็เพียงพอแล้วคะ เพราะเราจะใช้งานจริงก็ประมาณ 6-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ถือว่าเป็นระดับความเร็วที่เผาผลาญไขมันได้ดีมากๆ แต่หากคุณต้องการวิ่งเพื่อลงแข่งขัน ก็คงต้องเรื่องความเร็วที่สูงมากๆเสียหน่อย

3. การปรับระดับความลาดชันของลู่วิ่ง โดยทั่วไปแล้วลู่วิงจะปรับความชันได้ 12-15 เปอเซนต์จากพื้น ลู่วิ่งสามารถปรับความชันได้ด้วยไฟฟ้า จะค่อนข้างสะดวก เป็นปุ่มกดบริเวหน้าจอหรือที่ราวจับ และปรับด้วยมือ โดยการใส่สลักเพื่อยกเครื่อง มักจะปรับได้เพียง 3 ระดับ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าเครื่องที่ปรับด้วยไฟฟ้า

4. ระบบกันกระแทก เนื่องจากการวิ่งนั้นเป็นการใช้หัวเข่า ข้อเท้า เกิดการกระแทก หากเครื่องมีระบบกันกระแทกหรือซับแรงกระแทกก็จะช่วยลดการเสียหายหรือบาดเจ็บของข้อเท้า และหัวเข่า

5. หน้าจอ และโปรแกรม โดยปรกติแล้วลู่วิ่งไฟฟ้าจะมีฟังชันก์การใช้งานหลักอยู่ 6 ฟังก์ชั่น คือ ความเร็ว ความชัน การเผาผลาญแคลอรี่ ระยะทาง การเต้นของหัวใจ และระยะเวลาในการวิ่ง ซึ่งถื่อว่าเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ถูกแสดงไว้บนหน้าจอลู่วิ่งทั่วไป แต่สำหรับบางรุ่นอาจจะเพิ่มลูกเล่นให้กับผู้ใช้งาน เช่น สามารถตั้งโปรแกรมวิ่งได้ เป็นต้น

6. การรองรับน้ำหนักผู้วิ่ง ซึ่งควรจะสัมพันธ์กับน้ำหนักของตัวเครื่อง วิธีง่ายๆคือเลือกตัวเครื่องที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวคุณจะดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดเครื่องอืดเวลาวิ่ง

7. ขนดสายพาน ควรเลือกให้เหมาะกับสรีระของตนเอง หากคนเป็นคนตัวสูงใหญ่ช่วงขายาว ก็จำเป็นต้องเลือกสายพานที่มีขนาดใหญ่ และยาว เพื่อรองรับการก้าวขาวิ่งของคุณ

8. การรับประกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรสอบถามเงื่อนไขการับประกันให้ถี่ถ้วน ว่ารับประกันส่วนไหนบ้าง ระยะเวลากี่ปี รวมทั้งบริการหลังการขายเป็นอย่างไร หากเครื่องเสียแล้วต้องทำอย่างไร มีศูนย์ซ่อมบริการมากน้อยเพียงใดหรือศูนย์ที่อยู่ใกล้บ้านมีหรือไม่ ระยะเวลาการซ่อมนานเพียงใด และหากเครื่องหมดประกันแล้วอัตราค่าซ่อมคิดอย่างไร ทำให้เราใช้เครื่องได้อย่างสบายใจ เสียก็ส่งซ่อม

9. สถานที่ เป็นสิ่งสำคัญมากนะคะ หากคุณต้องการซื้อลู่วิ่งที่มีแรงม้าเยอะๆ ซึ่งขนาดก็ใหญ่ตามมาด้วย คุณจึงจำเป็นต้องคำนวณขนาดของเครื่องกับขนาดของห้องจัดว่างให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

ใครอยากจะออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้า สักเครื่องช่วยคุณได้นะคะ ก่อนซื้อลองนำเทคนิคข้างต้นนี้ไปพิจารณาด้วยนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง

วิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า: megafitness.in.th
ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี การเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า: healthcare.9dee.com

Previous articleเครื่องมือช่าง ที่ควรมีติดไว้ประจำบ้าน มีอะไรบ้าง
Next articleสิ่งจำเป็นสำหรับ น้องแมว มีอะไรบ้าง