ฉีดฟิลเลอร์ แก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ อันตรายไหมเรามีคำตอบ

449

เรื่องปัญหารอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า สาวๆส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก หากเกิดมีริ้วรอยเหี่ยวย่นขึ้นก็คงเป็นเรื่องใหญ่ และยอมไม่ได้กับปัญหาเหล่านี้ การจัดการกับริ้วรอยเหี่ยวย่นพวกนี้ ก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี สมัยก่อนที่นิยมกันมากก็จะเป็นการใช้ครีมบำรุงผิวต่างๆ แต่ก็ได้ผลที่ล่าช้าไม่ทันใจ แถมครีมบำรุงผิวบางตัวก็แพงเอาการ ในปัจจุบันจึงได้คิดค้นทางลัดในการจัดการเรื่องริ้วรอย โดยการ “ฉีดฟิลเลอร์” ซึ่งเราควรทำความรู้จักกับ “ฟิลเลอร์” ให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจฉีดมันเข้าไปในร่างกายของเรา

ฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) หรือเรียกอีกอย่างว่า “สารเติมเต็ม” เป็นสารที่ใช้ฉีดเพื่อเติมหรือเสริมใต้ผิวหนัง ซึ่งแพทย์จะใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยลึกรอบขอบตา ริ้วรอยที่มุมปาก และยังช่วยแก้ไข ปรับแต่ง รูปหน้าให้ดูดีอีกด้วย เช่น การเติมร่องแก้ม เติมริมฝีปาก หรือแม้กระทั่งการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมแต่งผิวหน้าอกก็นิยมทำกันมาก
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม ในปัจจุบันนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ

1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นสารเติมเต็มที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 4-6 เดือน หลังจากนั้นจะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติ จัดว่ามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง

2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มที่มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี แล้วก็สลายตัวไปเอง มีความปลอดภัยอยู่ระดับปานกลาง

3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) สารเติมเต็มชนิดนี้เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะใต้ผิวตลอดไป ไม่สลายไปตามธรรมชาติ และอาจมีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น พวกซิลิโคน หรือสารพาราฟิน ฯลฯ
ใต้ผิวหนังของคนเราจะมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ คอลลาเจน ซึ่งจะช่วยให้ผิวเต่งตึงดูมีน้ำมีนวล แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นปริมาณคอลลาเจนก็ลดลง ทำให้ผิวหนังเริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่น การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนังก็คือ การเติมเต็มคอลลาเจนในส่วนที่หายไปนั่นเอง

ข้อดีข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

• ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ คือ ได้ผลที่รวดเร็วในการรักษาริ้วรอยตางๆ ใช้เวลาฉีดไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และการฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่เป็นอันตรายและมีผลข้างเคียงน้อย เพราะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ

• ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ คือ หากใช้ฟิลเลอร์แบบชั่วคราวจะอยู่ได้แค่ประมาณ 4-6 เดือน ก็ต้องกลับมารับการฉีดฟิลเลอร์ใหม่ แต่หากใช้ฟิลเลอร์แบบถาวรก็อาจมีผลข้างเคียงได้ในระยะยาว

การฉีดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงอย่างไร

สำหรับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็ม พอจะสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้

• หากฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงตำแหน่ง เช่น ฉีดลึกหรือตื้นเกินไป จะทำให้ไม่ได้ผล

• มีอาการบวม การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องใต้ตาอาจทำให้อุดตันทางเดินน้ำเหลือง ทำให้มีอาการบวมคล้ายถุงใต้ตา

• หากฉีดตื้นเกินไปจะเป็นก้อนตะปุ่มตะป่ำ พบบ่อยเมื่อฉีดในบริเวณร่องแก้ม หรือใต้ตา

• ฟิลเลอร์ไปอุดตันของเส้นเลือดฝอย มักพบบ่อยในการฉีดเสริมที่ปลายจมูก

• เนื้อเยื่อข้างเคียงตาย เนื่องจากไปอุดตันเส้นเลือดขนาดกลาง พบบ่อยเมื่อฉีดที่ร่องแก้ม หรือฉีดเสริมจมูก

• ติดเชื้อและเกิดการอักเสบ พบได้บ่อยในกรณีที่ฉีดเติมปลายจมูกให้ดูยาวขึ้น

• เกิดเป็นพังพืดขึ้นเมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง หากฉีดบ่อยๆ จะทำให้จมูกโตขึ้นเรื่อยๆ

• ผลข้างเคียงที่หนักที่สุดคือ อาจทำให้ตาบอด เกิดจากการฉีดเสริมจมูกแบบผิดวิธี ทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่ดวงตา

ฟิลเลอร์เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ (หรือหนุ่มๆบางคน) ที่เริ่มมีริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร การฉีดฟิลเลอร์จะให้ผลที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอนานเหมือนการใช้ครีมบำรุงผิว แต่การฉีดฟิลเลอร์ก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังไว้ด้วย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ และการฉีดฟิลเลอร์ก็ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับกา รฉีดฟิลเลอร์
การฉีดสารเติมเต็ม : yanhee.net
ผลข้างเคียงจาการฉีดฟิลเล่อร์ : drniwet.com

Previous articleประกันแบบครอบครัว ซื้อที่ไหนดีให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง
Next articleทำตาสองชั้น แนะนำวิธีทำเสริมดวงตาให้เสน่ห์ชวนมอง