ฟอกฟันขาว เพิ่มเสน่ห์ให้ฟันของคุณ … ปัญหาเรื่องฟันเหลือง มีสีหมองคล้ำ ทำให้บุคลิกของคุณดูแย่ลง และเป็นปัญหาที่กวนใจสำหรับคนที่มีฟันเหลืองดังนั้นเมื่อฟันของคุณเริ่มมีสีเหลือง หรือมีสีที่หมองคล้ำ ก็ควรรีบหาทางจัดการกับฟันของคุณ อย่าปล่อยให้ฟันเหลืองอีกต่อไป และการฟอกฟันขาวก็เป็นวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีในการจัดการปัญหาเรื่องฟันเหลืองของคุณก่อนอื่นเราไปดูสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลืองกันก่อน
สาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง ทำให้ต้องแก้ด้วยการ ฟอกฟันขาว
โดยปกติฟันคนเราจะมีสีขาวเป็นวาว แต่การที่บางคนมีฟันที่เหลืองหรือหมองคล้ำนั้น อาจจะมาจากสาเหตุหลายประการ ดังนี้
- การรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีสีอยู่เป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ ลูกอมต่างๆ ฯลฯ และมีการแปรงฟันที่ไม่สะอาดเพียงพอ จึงทำให้มีคราบสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนฟันเป็นสีเหลืองคล้ำ
- เกิดจากการสูบบุหรี่ สารนิโคตินในบุหรี่จะไปจับตามซอกฟัน ทำให้ฟันเป็นสีน้ำตาลเข้ม และทำให้มีกลิ่นปากด้วย
- เกิดจากฟันผุ หรือฟันที่ตายแล้ว ไม่มีเลือดไปเลี้ยงประสาทฟัน ทำให้ฟันมีสีหมองคล้ำ
- คนที่มีสีของฟันผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด อันเนื่องมาจากโรคบางชนิด หรือเป็นเพราะทานยาบางอย่างซึ่งมีผลต่อสีของฟัน เช่น ยาเตตราซัยคริน ฯลฯ
- การได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป ก็เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ฟันเป็นจุดสีน้ำตาล หรือที่เรียกกันว่า “ฟันตกกระ”
การฟอกฟันขาว คืออะไร
การฟอกฟันขาว คือ การฟอกสีฟันทั้งปากให้ดูขาวใส เป็นมันวาวมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากสำหรับการฟอกฟันขาวตามคลินิกทั่วไป จะมีอยู่ 2 วิธี คือ
- ฟอกฟันขาวที่คลินิก โดยจะมีทันตแพทย์เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งการฟอกฟันส่วนใหญ่จะใช้สารฟอกสีประเภท Peroxide ความเข้มข้นประมาณ30-35 % ระยะเวลาในการฟอกฟันขาว ประมาณ 30-60 นาที
- ฟอกฟันขาวที่บ้าน โดยทันตแพทย์จะจัดเตรียมสารฟอกฟันและอุปกรณ์ในการฟอกฟันขาวให้กลับไปทำเองที่บ้าน แต่คนไข้ต้องกลับมาตรวจฟันเป็นระยะตามนัด โดยสารฟอกฟันที่ให้ไปจะความเข้มข้นน้อยกว่าที่ใช้ในคลินิกประมาณ 2-10% เพื่อความปลอดภัย
สำหรับระยะเวลาในการฟอกฟันขาว จะขึ้นอยู่กับสีและคราบที่ฝังอยู่บนฟัน ในกรณีที่ฟันมีสีเหลืองไม่มากก็อาจจะใช้เวลาในการฟอกฟันให้ขาวประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่หากฟันมีสีเหลืองเข้ม อาจต้องใช้เวลานานขึ้นประมาณ 4-5 สัปดาห์
การฟอกฟันขาว มีผลข้างเคียงหรือไม่
การฟอกฟันขาว ไม่ได้ทำให้ฟันสึกกร่อนหรือเคลือบฟันเสียไป แต่สารที่ใช้ฟอกฟันขาวอาจจะมีผลข้างเคียงต่อเหงือกและฟันอยู่บ้าง โดยเฉพาะในคลินิกจะใช้สารที่มีความเข้มข้นสูงในการฟอกฟัน แต่จะมีทันตแพทย์เป็นผู้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีความระมัดระวังเป็นพิเศษส่วนสารฟอกฟันชนิดที่นำกลับมาทำที่บ้าน จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า จึงไม่ค่อยมีผลข้างเคียงมากนัก ถึงแม้ว่าเผลอกลืนสารฟอกฟันลงไปบ้าง แต่สารฟอกฟันจะสลายตัวกลายเป็นน้ำไปเอง
สำหรับผลข้างเคียงในการใช้สารฟอกฟันอาจจะมีอาการแสบเหงือกและแสบในช่องปาก เนื่องจากการระคายเคือง และอีกอย่างหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ คือ จะมีอาการเสียวฟันหลังจากฟอกฟันขาวเพราะประสาทฟันจะทำการป้องกันตัวเองตามธรรมชาติ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเอง
วิธีฟอกฟันขาวด้วยตัวเอง
ถึงแม้การฟอกฟันขาวตามคลินิกจะเป็นที่นิยม แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายไม่น้อย วันนี้จึงมาแนะนำการฟอกฟันขาวที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆไม่ยุ่งยาก ดังนี้
- ฟอกฟันขาวด้วยแครอท แครอทจะอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคเหงือกและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในปากได้ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดเป็นด่างในช่องปากได้ วิธีทำ เพียงนำแครอทดิบมาถูบริเวณฟันที่เหลืองอยู่เป็นประจำ ก็จะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้
- ฟอกฟันขาวด้วยสตรอเบอรี่ ในสตรอเบอรี่จะมีกรดมาลิค ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำยาสีฟัน วิธีทำ ใช้สตรอเบอรี่สดประมาณ 1-2 ลูก นำไปทาที่ฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วบ้วนด้วยน้ำสะอาด
- ฟอกฟันขาวด้วยน้ำมะนาว ในน้ำมะนาวจะมีกรดที่เหมือนกับสารฟอกฟัน ซึ่งจะช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้ วิธีทำ นำน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่าในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำไปถูฟัน หรือจะใช้เปลือกมะนาวถูฟันก็ได้ แต่ไม่ควรทำเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะอาจทำให้ฟันผุได้
- ฟอกฟันขาวด้วยเปลือกกล้วย เปลือกกล้วยมีสารที่ช่วยให้ฟันขาวหลายชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ฯลฯ วิธีทำ ใช้เปลือกกล้วยถูฟัน ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วแปรงฟันตามปกติ
- ฟอกฟันขาวด้วยผงฟู ผงฟูจะช่วยปรับความเป็นกรดในช่องปากและช่วยขจัดคราบที่ฝังอยู่บนฟัน วิธีทำ ใช้ผงฟูผสมกับเกลือเล็กน้อยแปรงฟัน แล้วบ้วนด้วยน้ำสะอาด
ข้อมูลเพิ่มเติม:
จะทำอย่างไรให้ฟันขาว คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล : si.mahidol.ac.th
ฟอกสีฟันด้วยตนเองกับไปฟอกที่คลินิกอย่างไหนดีกว่ากัน? : pantip.com
