ประโยชน์ของ ปลาแซลมอน มีอะไรบ้าง

3157

คนที่รักษาสุขภาพคงไม่มีใครที่ไม่ชอบทาน ปลาแซลมอน ใช่ไหมคะ ด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่อัดแน่นอยู่ในเนื้อปลาสีส้มๆนี้เอง เรามาทำความรู้จักเจ้าปลาแซลมอนกันเถอะคะ

ปลาแซลมอน

ปลาแซลมอน จะแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก

1. แอตแลนติกแซลมอน (Atlantic Salmon) เป็นสายพันธุ์ที่คนไทยคุ้นเคย มีฟาร์มเลี้ยงอยู่มาก ทำให้มีปริมาณเพียงพอกับผู้บริโภค

2. แปซิฟิกแซลมอน (Pacific Salmon) ยังสามารถหาปลาจากแหล่งธรรมชาติได้มาก แต่มีราคาค่อนข้างสูง สายพันธุ์ของปลาแซลมอนที่นิยมรับประทานกันมาก มีด้วยกันอยู่ 5 สายพันธุ์ได้แก่

  • Chinook Salmon เป็นปลาแซลมอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หรือ บางคนเรียกว่าKings ลักษณะเด่นคือมีจุดสีดำด้านข้างด้านบน และหาง มีน้ำหนักตัวประมาณ 6-36 กิโลกรัม เนื้อปลาจะเป็นริ้วสลับสีขาว-แดงเข้ม มีไขมันค่อนข้างสูง
  • Sockerye Salmon หรือ Red Salmon เชื่อกันว่าเป็นปลาแซลมอนที่มีเนื้ออร่อยที่สุด และมีราคาแพงที่สุดในหมู่บรรดาปลาแซลมอนอีกด้วย ปลาแซลมอนชนิดนี่มีขนาดไม่ใหญ่ มีเนื้อสีแดงส้มเข้ม
  • Pink Salmon หรือ Humpies หรือ Humpback Salmon ปลาแซลมอนชนิดนี้มีลักษณะพิเศษตรงที่มีกระดูกสันหลังโค้งงอมากกว่าชนิดอื่น และมีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มปลาแซลมอนแปซิฟิก มีสีเนื้อส้มอ่อนถึงชมพู มีไขมันไม่มากนัก
  • Chum Salmon หรือ Silverbrite Salmon หรือ Keta Salmon หรือ Dog Salmon ปลาแซลมอนชนิดนี้จะมีลักษระฟันคล้ายสุนัข เอาไว้ไล่ตัวผู้ด้วยกันเพื่อไม่ให้เข้าใกล้ตัวเมีย มีขนาดเล็ก มีสีของเนื้อซีด และมีไขมันน้อยมาก
  • Coho Salmon หรือ Silver เนื่องจากมีสีผิวเป็นสีเงิน มีลักษณะคล้ายกับ Chinook Salmon แต่มีขนาดเล็กกว่า นำหนักอยู่ที่ 3-12 กิโลกรัม มีเนื้อสีแดงส้ม

สารอาหารที่พบมากในปลาแซลมอน คือ

  • สารโอเมก้า 3 พบได้มากที่สุดในปลาแซลมอน King salmon หรือ Chinook Salmon จะช่วยเสริมการทำงานของสมองและระบบประสาท การรับประทานปลาแซลมอนเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงและเกิดอาการซึมเศร้า ภาวะเครียด และภาวะสมองเสื่อมในผู้ใหญ่ได้ เนื้อปลาแซลมอน 150 กรัม มีสารโอเมก้า 3 ถึง 3.2 กรัมเลยคะ
  • สารไบโอแอคทีฟแปปไทน์ ซึ่งมีกรดโปรตีน อย่าง แคลซิโทนิน มีส่วนช่วยเสริมและสร้างความสัมพันธ์ของการสังเคราะห์คอลลาเจนในกระดูกอ่อนของเรา สามารถพบได้ในปลาแซลมอน
  • โปรตีน ที่พบในปลาแซลมอนยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกและความแข็งแรงของกระดูกด้วย
  • สารอีพีเอ (EPA) และสารดีเอชเอ (Decosahexaenoic acid) ในปลาแซลมอนมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดและหัวใจ ช่วยลดการอักเสบ หากรับประทานปลาแซลมอน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ หัวใจเต้นผิดปกติ ความดันโลหิตสูง และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงได้
  • ดีเอชเอ (DHA ) เป็นกรดไขมันพื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาทตา การให้เด็กวัยก่อนเข้าเรียนได้รับประทานปลาแซลมอนเยอะๆ จะช่วยป้องกันโรคสมาธิสั้นและส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กได้ดีขึ้น
  • วิตามินเอ ในปลาแซลมอล จะช่วยเรื่องสายตา ระบบภูมคุ้มกัน และช่วยให้เด็กในครรภ์มีพัฒนาการที่สมบูรณ์
  • วิตามินบี 12 ช่วยเรื่องในการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
  • วิตามินดี ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยวิตามินดีที่ช่วยในเรื่องของกระดูก และช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปลอกประสาทอักเสบ โรครูมาตอยด์ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เป็นต้น
  • สารซีลีเนียม (Selenium) ปลาแซลมอนอุดมไปด้วยซีลีเนียมซึ่งเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายของเรา จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดข้ออักเสบ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และไทรอยด์ให้ทำงานดีขึ้น ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆแข็งแรง
  • สารไอโอดีน (Iodine) สารนี้จะช่วยเรื่องรักษาระบบการเผาพลาญให้เป็นปกติ

หากอยากสุขภาพดีลองหาปลาแซลมอนมารับประทานกันนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง

7 ประโยชน์ของแซลมอนเพื่อคนรักสุขภาพ: tescolotus.com
ปลาแซลมอนแบ่งเป็นกี่ชนิด: eatconnection.com
แซลมอนจ๋า เจ้ามาจากหนใด รู้จักชนิด ตามติดการเดินทางของปลาแซลมอนและวิถีชีวิตอันน่าทึ่ง: jgbthai.com
Salmon and Health: salmonfacts.com
The Top 7 Types of Salmon: thespruceeats.com

Previous articleตั้งชื่อมงคลลูกสาว-ลูกชาย อักษรต้องห้าม วิธีเสริมดวงลูกน้อย
Next articleโรคพิษสุนัขบ้าในแมว มีอาการ และมีสาเหตุจากอะไรบ้าง