สเปรย์ปรับอากาศ ดีต่อสุขภาพหรือไม่

7261

ปัจจุบันหากภายในบ้าน ห้อง หรือรถยนตร์ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว คนส่วนมากจะนึกถึง สเปรย์ปรับอากาศ หยิบขึ้นมาฉีดทันที เพียงเท่านี้กลิ่นภายในห้องของคุณก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นกลิ่นหอมขึ้นมาทันที ซึ่งสเปรย์ปรับอากาศบางยี่ห้อยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอากาศหรือบนพื้นผิวของวัสดุอุปกรณ์เครื่องเรือนต่างๆ มากน้อยแตกต่างกันไป

สเปรย์ปรับอากาศ

สเปรย์ปรับอากาศ ก็จะแบ่งได้ 2 แบบใหญ่ คือ

1. สเปรย์สำหรับดับกลิ่น เป็นสเปรย์ที่ไม่ผ่านกระบวนการอัดก๊าซ เน้นการสร้างกลิ่นหอมให้กับอากาศ บางยี่ห้ออาจจะมีสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ องค์ประกอบหลักจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ขึ้นมาโดยเฉพาะ

2. สเปรย์ปรับอากาศสำหรับฆ่าเชื้อโรค เป็นชนิดที่ประกอบด้วยสารในการออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อจุลินทรีย์จำพวกแบคทีเรีย โดยเฉพาะบริเวณที่อับชื้นหรือมีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกต่างๆ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ไม่สามารถเจริญเติบโตและสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ส่วนประกอบอื่นๆอาจจะมีกลิ่นสังเคราะห์เพื่อเพิ่มความหอมผสมน้ำยา

คุณทราบไหมคะว่า สารประกอบในสเปรย์ส่วนใหญ่มาจากสารเคมี บ้างก็มีส่วนผสมของพาลาเลต (Phthalate)และสารเคมีที่เป็นอันตรายเช่น เบนซิน (Benzene) ฟอร์มัลดีไฮด์(Formaldehyde) สารขับดัน (Propellants) ตัวทำละลาย (Solvent) น้ำหอมสังเคราะห์ ( Synthetic musk) ซึ่งสารเคมีเหล่านี้หากถูกนำมาฉีดในห้องแคบๆ โดยที่คุณเองหรือลูกๆยังคงอยู่ในห้อง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากคะ

จากการศึกษาพบว่าง สเปรย์ปรับอากาศ มีสารลิโมนีนทำให้เกิดกลิ่นซิตรัส (Citrus) จะทำปฏิกิริยากับฮอร์โมนโอโซนในอากาศและทำให้เกิดสารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งหลังโพรงจมูก  ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการตรวจสอบน้ำหอม ที่ใช้ปรับอากาศพบว่ามีสารพาลาเลต ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมีที่ใช้ในการละลาย สารเคมีกลุ่มนี้เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในการทำให้พลาสติกอ่อนตัวลงหรือนุ่มขึ้น เช่น ใช้ในถุง หรือฟิล์มยืดและใช้ในการทำกาว จากการศึกษาและทดลองในหนูพบว่าสารพาลาเลตในปริมาณมากก่อให้เกิดโอกาสเป็นโรคมะเร็งได้สูงมีผลกระทบกับฮอร์โมนเพศในทารกให้ผิดปกติไป และมีผลกระทบต่อความสามารถในการเจริญพันธุ์อีกด้วย

การใช้สเปรย์ปรับอากาศไปนานๆจะเกิดการอันตรายกับปอด ตับ และระบบประสาทของมนุษย์ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน จากการทดลองในหนู หลังจากที่ได้รับสเปรย์ปรับอากาศยี่ห้อหนึ่งในเวลา 1 ชั่วโมง พบว่าสเปรย์ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้การหายใจติดขัด และยังส่งผลให้อากาศไหลเวียนถ่ายเทไม่ดีอีกด้วย

แต่ผู้บริโภคบางท่านอาจจะคิดว่าใช้ในปริมาณเพียงน้อย ไม่ได้ใช้เป็นประจำอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แท้จริงแล้ว การได้รับสารเคมีสะสมอยู่ตลอดเวลาในปริมาณที่น้อยๆ ไปเรื่อยๆ ก็ยังคงส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณอยู่ดี แต่ทั้งนี้อาจจะใช้เวลาในการแสดงอากาศนานเสียหน่อย หรือบางท่านอาจจะมีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อยก็เป็นไปได้คะ

หากคุณยังคงชื่นชอบใช้สเปรย์ปรับอากาศ ก็อยากจะแนะนำให้เลือกใช้สเปรย์ที่ผลิตจากสารธรรมชาติให้มากที่สุดหรือผลิตจากสารธรรมชาติ 100 % ได้ยิ่งดี คุณก็จะได้กลิ่นหอม สูดดมเข้าไปก็ไม่ต้องกังวลใจคะ

สำหรับคนที่อยากจะให้ห้องมีอากาศสดชื่นหลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ปรับอากาศชนิดๆก็ตาม สามารถทำด้วยวิธีง่ายคือเปิดหน้าต่าง ใช้พัดลมเป่าภายในห้อง หรือเปิดพัดลมดูดอากาศ เพื่อเป็นการหมุนเวียนอากาศหรือดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกนำไป และควรกำจัดแหล่งที่มาของการเกิดกลิ่นออกจากห้อง เช่น ขยะ เศษอาหาร เป็นต้น อย่าหมักบ่มไว้ หรือคุณอาจจะหันมาปลูกต้นไม้ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมไว้ในห้อง หรือใกล้หน้าต่าง-ประตูบ้าน อย่างเช่น มะลิ ลาเวนเดอร์ กุหลาบ ลิลลี่ จำปี จำปา กระดังงา ดอกแก้ว เป็นต้น ก็จะสามารถสร้างกลิ่นหอมให้กับบ้านของคุณได้แล้วคะ ไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมีก็ได้

ข้อมูลอ้างอิง

เรื่องอันตรายจากน้ำหอมปรับอากาศ: dek-d.com
สเปรย์ปรับอากาศ: siamchemi.com
พาลาเลตคืออะไร: fic.nfi.or.th
The Dangers of Air Fresheners : ackermancancercenter.com

Previous articleแฟลชไดร์ฟ เลือกอย่างไรให้ดีและคุ้มค่า
Next articleอุปกรณ์เสริมมือถือ ที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้