ดร.ก้องศักด ชี้แจง ปัญหาสารกระตุ้นของประเทศไทยจะถูกแก้ไข ในปีหน้า

14

สารกระตุ้น

กลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างยิ่งสำหรับวงการกีฬาไทย ในเวลานี้ เมื่อประเทศไทย ถูกทางองค์การต่อต้านสารกระตุ้นโลกหรือว่า WADA ได้แจ้งแบน ไทยในการใช้ธงชาติรวมไปถึงเพลงชาติ แทบทุกรายการแข่งขันหลากหลายชนิดกีฬา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่รู้สึกได้ถึงความน่าเศร้าของวงการกีฬาไทย คือการที่ บาสและปอป้อ นักแบดมินตันคู่ผสม ทีมชาติไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเวลานี้ ทั้งการคว้าเหรียญทองศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก ที่ประเทศสเปน

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาและการก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกของทั้งคู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับวงการแบดมินตันไทยมาก่อนกับการแข่งขันคู่ผสม

แต่ทว่าทั้งคู่ ก็ไม่ได้เห็นธงชาติตนเองขึ้นสู่ยอดเสา โดยธงชาติที่ได้เห็นเป็นเพียงแค่สีขาวและระบุข้อความว่า Badminton Association Thailand หรือตัวย่อว่า b a t ซึ่งเรื่องดังกล่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟน ๆ กีฬาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศถึงความน่าเสียดายกับเกียรติยศของประเทศชาติในครั้งนี้

โดยสาเหตุดังกล่าว ที่ทีมชาติไทยถูกแบน อันเนื่องมาจาก WADA ได้กล่าวว่าประเทศไทยขัดกับกฎหมายในเรื่องสารกระตุ้นยังไม่เข้ากฎระเบียบ และการรับรองขององค์กรต้านสารกระตุ้นโลก ซึ่งทางวัดได้จะให้เวลาถอยในการแก้ไขในเรื่องนี้มาได้สักระยะแล้วแต่ว่าความคืบหน้ากลับไม่ได้เกิดขึ้นอย่างจริงจัง

ทั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่นักกีฬาจากประเทศไทย ไม่ได้มีข่าวเกี่ยวข้องกับสารกระตุ้นใด ๆ แม้แต่คนเดียว แต่กลับไม่สามารถใช้ธงชาติของตนเองกับการแข่งขันรายการต่าง ๆ ได้ โดยเรื่องดังกล่าว จะถูกแก้ไขต่อเมื่อ พรบ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามคนนักกีฬาถูกแก้ไขจากในประเทศไทยเสียก่อน

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ได้กล่าวว่า

 “เรื่องดังกล่าวน่าจะมีการแก้ไขเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเมื่อแก้ไข้เสร็จก็จะรีบแจ้งไปยัง WADA ทันที และถ้าทุกอย่างไม่มีปัญหาก็จะสามารถปลดแบนได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2565”

Previous article“บีล” พาวิซาร์ดส์บุกทุบแจ๊ซ พ่วงสถิติทำคะแนนมากสุดในฤดูกาล
Next articleคลิปไฮไลท์ฟุตบอล เวียดนาม 0-2 ทีมชาติไทย (ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ)