ดับเบิลยูทีเอ ประกาศยกเลิกการแข่งขันเทนนิสอาชีพทุกรายการในประเทศจีนและฮ่องกงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจจากรัฐบาลจีนเกี่ยวกับความปลอดภัยของ เผิง ฉ่วย นักหวดสาวชาวจีน ที่ออกมาแฉอดีตรองนายกรัฐมนตรีล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สมาคมเทนนิสหญิงอาชีพ หรือ ดับเบิลยูทีเอ ออกแถลงการณ์สั่งระงับการจัดการแข่งขันเทนนิสทุกทัวร์นาเมนท์ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและฮ่องกง โดยมีผลบังคับใช้ทันทีเนื่องจากไม่ได้รับคำตอบหรือการยืนยันที่น่าพอใจเกี่ยวกับ เผิง ฉ่วย นักหวดลูกสักหลาดสาวจีน
ทั้งนี้ เผิง ฉ่วย ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอถูก จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ละเมิดทางเพศและบังคับให้มีความสัมพันธ์เป็นเวลานานหลายปี และต่อมาเธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เป็นเวลา 3 สัปดาห์ แม้ล่าสุด เผิง ฉ่วย จะได้วิดีโอคอลล์กับ โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าเธอปลอดภัยดี เพียงแต่ต้องการเวลาส่วนตัวกับเพื่อนและครอบครัว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่ทราบข่าวหายความสงสัย
ล่าสุด สตีฟ ไซมอน ประธานของ ดับเบิลยูทีเอ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า
“ ผมมองว่าเราไม่สมควรปล่อยให้นักกีฬาเดินทางไปแข่งขันที่นั่นในขณะที่ เผิง ฉ่วย ไม่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารอย่างปกติต่อสาธารณชน ทั้งเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงสถานการณ์คลุมเครือที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผมรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากหากนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ต้องไปเผชิญความเสี่ยงที่นั่น เราจึงจำเป็นต้องยกเลิกการแข่งขันทุกรายการตั้งแต่บัดนี้ ”
“ ดูเหมือนเราอาจจะรู้แล้ว่า เผิง ฉ่วย อยู่ที่ไหน แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าเธอมีอิสระ ปลอดภัย หรือไม่โดนปิดกั้น แม้กระทั่งบางทีเธออาจถูกบังคับข่มขู่ก็เป็นได้ ”
“ ดับเบิลยูทีเอ ขอยืนยันเรียกร้องให้มีการสอบสวนประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจัง เปิดเผย และโปร่งใส ”