ถือเป็นโอกาสทองที่ประเทศไทยอาจมีแชมป์โลกคนใหม่ส่งท้ายปีเก่าเมื่อ แก่นนคร จีพีพีเรือใบไข่มุก มีจะได้ช่วงชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวท 2 สถาบันคือ สหพันธ์มวยนานา ชาติ (IBF) และสมาคมมวยโลก (WBA) จาก นาโอยะ อิโนเอะ ยอดมวยเมืองปลาดิบ ในวันที่ 14 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ที่สนามกีฬาเรียวโงะกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
แม้ “เจ้าโต้ง” เป็นรองอย่างชัดเจนด้วยชื่อชั้นที่เหนือกว่าของ นาโอยะ อิโนเอะ เจ้าของฉายา “มอนสเตอร์” และยังต้องเดินทางไปชกในถิ่นของแชมป์โลกอีกด้วย แต่ แก่นนคร ได้ชื่อว่าเป็นมวยหมัดหนัก จึงมีสิทธิพลิกเกมได้ตลอดวินาทีของการต่อสู้ บวกกับความเป็นนักชกที่มีระเบียบวินัยสูง เตรียมตัวฝึกซ้อมอย่างหนักและต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ อาจารย์ อ.มาโนช บุตรเมือง นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มาติวเข้มและดูแลอย่างใกล้ชิด จึงเป็นการเพิ่มโอกาสและความหวังให้กับเจ้าตัวไม่ใช่น้อย
ทางด้าน ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง บอสใหญ่แห่งค่ายเกียรติกรีรินทร์ มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะสร้างแชมป์อีกครั้งนับตั้งแต่ อำนาจ รื่นเริง เสียตำแหน่งให้กับ จอห์น รีล คาซิเมโร นักชกชาวฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2016 ที่ประเทศจีน
“จิมมี่” ดร.เอกรัฐ เคยพลักดัน แก่นนคร ไปชิงแชมป์ WBC อินเตอร์เนชั่นแนลซิลเวอร์ กับ ทอมมี แฟรงค์ ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2019 แต่แพ้คะแนนนักชกเจ้าถิ่นแบบไม่เป็นเอกฉันท์ จากนั้นข่าวคราวของค่ายเกียรติกรีรินทร์ก็เงียบหายไประหว่างเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จนกระทั่งได้รับโอกาสทองส่ง “เจ้าโต้ง” แก่นนคร ลุ้นกระชากเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวท 2 เส้นจาก นาโอยะ อิโนเอะ
อย่างไรก็ตาม ผู้สันทัดในวงการค้ากำปั้นเชื่อว่า แก่นนคร รองแชมป์โลกอันดับ 6 มีโอกาสหักปากกาเซียน บุกไปกระชากเข็มขัดโลกของ สหพันธ์มวยนานา ชาติ (IBF) และสมาคมมวยโลก (WBA) ไม่ใช่น้อยหากไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ชกตามสไตล์ด้วยความระมัดระวัง แต่น่าจะเป็น นาโอยะ อิโนเอะ ต่างหากที่เป็นฝ่ายแบกรับความกดดัน และต้องระวังตัวสูงเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อหมัดตะลุมพุกของผู้ท้าชิงชาวไทย
