กีฬาขี่ม้าอาจจะถูกตัดออกจากปัญจกีฬา เริ่มจาก ปารีส โอลิมปิก หลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวทำร้ายสัตว์ในโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา โดยกีฬาปีนหน้าผาและจักรยานอาจถูกเลือกเข้ามาแทนที่
ความคืบหน้าของเหตุการณ์อื้อฉาวใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้กีฬาขี่ม้าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยการขี่ม้าเป็น 1 ใน 5 ชนิดกีฬาของการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่ ซึ่งอีก 4 ชนิดกีฬา ได้แก่ ยิงปืนสั้น, ฟันดาบ, ว่ายน้ำฟรีสไตล์ 200 เมตร และวิ่งกลางแจ้ง 3 กิโลเมตร
ล่าสุด สหพันธ์ปัญจกีฬาโลก ประกาศยืนยันว่า การประชุมครั้งล่าสุดได้ลงคะแนนให้ตัดกีฬาขี่ม้าออกจากการแข่งขันปัญจกีฬา โดยได้ผ่านมติเห็นชอบจากประเทศสมาชิกแล้ว กำลังเข้าสู่กระบวนการหากีฬาที่เหมาะสมเข้ามาทดแทน หลังจากนั้นจะนำเสนอเรื่องต่อ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยคาดว่าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงใน โอลิมปิก เกมส์ 2028 ที่นครลอส แองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีในวงการกีฬาโลกคาดว่า กีฬาที่อาจจะเข้ามาทดแทน ได้แก่ จักรยาน หรือ ปีนหน้าผา ซึ่งยังคงคอนเซปต์ของปัญจกีฬา ที่สื่อถึงการฝึกร่างกายด้านการทหารตามรูปแบบการแข่งขันในอดีต
สำหรับเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงใน โตเกียว เกมส์ 2020 คือการที่ คิม ไรส์เนอร์ โค้ชปัญจกีฬาทีมชาติเยอรมนี ได้ต่อยไปที่ลำตัวของม้าที่สุ่มเลือกมาก่อนหน้านี้ แม้เธอจะถูกลงโทษให้พ้นจากการแข่งขันทันที แต่ภาพกระทำรุนแรงต่อสัตว์กลายเป็นหัวข้อที่ถกเถียงอย่างหนักจน องค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือ PETA (People for the Ethical Treatment of Animal) ได้ออกมาเรียกร้องขอให้โอลิมปิกถอดถอนทุกประเภทกีฬาที่มีการใช้ม้าออกจากการแข่งขัน เพื่อไม่ให้ม้าโดนทารุณกรรม
สิ่งที่กระตุ้น คิม ไรส์เนอร์ กระทำเรื่องดังกล่าวมาจากการที่ อันนิกา ชลอย นักกีฬาทีมชาติเยอรมนี ที่มีลุ้นเหรียญทองครั้งนี้ จับสลากได้ม้า Saint Boy แต่ระหว่างแข่งขัน ม้าตัวดังกล่าวไม่ยอมกระโดดข้ามรั้ว ทำให้เธอได้ 0 คะแนน และจบอันดับที่ 31 ของตารางแบบไม่มีลุ้นเหรียญ
อนึ่งตามกติกา นักกีฬาจะต้องสุ่มเลือกม้าที่ใช้ขี่แข่งขัน และมีเวลาสร้างความคุ้นเคยกับม้าเพียง 20 นาทีก่อนแข่งเท่านั้น
