เดนเวอร์ บรองโกส์ ออกมายืนยันเป็นที่แน่ชัดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วว่า พวกเขาได้ตัดสินใจปล่อย รอยซ์ ฟรีแมน รันนิงแบ็ควัย 25 ปี ออกจากทีมหลังจากที่ เดนเวอร์ บรองโกส์ ได้เซ็นผู้เล่นหลายรายในตำแหน่งรันนิงแบ็คเพื่อเข้ามาถือบอลวิ่งให้กับทีม
แน่นอนว่า ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้บอกว่า รอยซ์ ฟรีแมน เป็นส่วนเกินและไม่มีประโยชน์กับทีมนับตั้งแต่ที่อยู่ร่วมทัพมา แต่มองดูสถานการณ์ของทีม “ ม้าป่าลำผอง ” พวกเขาก็ให้สถานะ รอยซ์ ฟรีแมน เป็นรันนิงแบ็คส่วนเกินของทีมในซีซันที่กำลังจะเริ่มต้น และถูกปล่อยตัวออกจากทีมในที่สุด
สำหรับ เดนเวอร์ บรองโกส์ พวกเขาได้เทรด รอยซ์ ฟรีแมน เข้าทีมฐานะในดราฟท์อันดับ 3 คลาส 2018 และแน่นอนว่า รอยซ์ ฟรีแมน ลงเล่นในซีซันรุคกีโดยออกสตาร์ทเพียงแค่ 8 เกมเท่านั้น และตลอดระยะเวลาที่เจ้าตัวอยู่ เดนเวอร์ บรองโกส์ 3 ปี รอยซ์ ฟรีแมน ได้รับบทบาทเพียงแค่ในซีซันแรกกับทีม ซึ่งตลอด 2 ฤดูกาลเจ้าตัวไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง นั่นจึงทำให้ เดนเวอร์ บรองโกส์ พยายามที่จะผลักดันผลงานของ รอยซ์ ฟรีแมน มาตลอด แต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐานที่ทีมวางไว้
และในช่วงที่ รอยซ์ ฟรีแมน ได้รับการผลักดันก็คือ พวกเขาได้เซ็น เมลวิน กอร์ดอน อดีตรันนิงแบ็คของ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เข้ามาถือบอล พร้อมกับดัน รอยซ์ ฟรีแมน ให้มีบทบาทลงสนามมากขึ้น แต่เจ้าตัวก็ยังคงสามารถทำงานได้อย่างย่ำแย่ให้กับทีมเช่นเดิม
และแน่นอนว่า เมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา เดนเวอร์ บรองโกส์ พวกเขาก็ได้เซ็น ไมค์ บูน อดีตรันนิงแบ็คของทีม มินเนโซตา ไวกิงส์ เข้ามาเสริมทัพอีก 1 ราย ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่อยู่บัญชีบาดเจ็บ นั่นจึงให้พื้นที่ว่างของ รอยซ์ ฟรีแมน แทบจะไม่หลงเหลือ และเจ้าตัวก็ถูกปล่อยออกจากทีมหลังจากมีชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ นาน 3 ฤดูกาล