แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็คมากประสบการณ์ วัย 37 ปี ของ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ได้ออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า เขาไม่คิดว่าจะได้ลงเล่นกับทีมในฤดูกาล 2021 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น เพราะเคยมองว่าเส้นทางของเขากับต้นสังกัดน่าจะจบลงไปพร้อมกับการปิดฉากฤดูกาล 2020
ย้อนกลับไปหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2020 แอรอน ร็อดเจอร์ส ที่อยู่กับ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส มายาวนานกว่า 15 ปี เริ่มนึกถึงการยุติเส้นทางการเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอาชีพ เนื่องจากอายุอานามที่มากถึง 37 ปี บวกกับเขาต้องการเปิดโอกาสให้ จอร์แดน เลิฟ เด็กรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาแทนที่ แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่เพื่อลงเล่นในฤดูกาล 2021 ท่ามกลางความยินดีของเหล่าแฟนคลับ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในหัวของเขามาก่อนเลย
โดยทางด้านของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทาง ฟุตบอล มอร์นิง อิน อเมริกา เอาไว้ว่า “ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เปรียบเสมือนกับบ้านหลังที่สองของผม ทุกคนที่นี่ไม่ต่างอะไรกับสมาชิกภายในครอบครัว ผมเคยคิดว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องพอ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ แต่ทางสโมสรแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยากให้ผมลงเล่นต่อไป และถ้าหากมันเป็นความต้องการของครอบครัว ผมก็ไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ”
แต่สำหรับทุกอย่างก็คงจะอยู่บนพื้นฐานของข้อเสนอที่ทาง กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ได้ปรับลดความสำคัญของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ซึ่งนั่นเป็นตัวกำหนดและตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ แอรอน ร็อดเจอร์ส อยู่กับทีมต่อไปหรือไม่ เกี่ยวกับคำถามที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าในส่วนของ จอร์แดน เลิฟ ที่เข้ามาก็อาจจะไม่มีส่วนมากนัก เพราะว่าถ้าหากเมื่อใดที่ แอรอน ร็อดเจอร์ส กลับมาสวมเครื่องแบบให้ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส “ แอรอน ร็อดเจอร์ส ” จะได้รับโอกาสลงสนามออกสตาร์ทแน่นอน
