จากเหตุการณ์ที่ผู้เล่น ฮิวสตัน เท็กแซนส์ หลายคนเดินทางมาร่วมงาน แกรนด์ โอเพนนิง ร้านอาหารของ เดอชอน วัตสัน ผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็ค นั่นหมายถึงการแหกกฎ โปรโตคอล โควิด-19 ของลีกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ที่ได้ตั้งไว้จึงทำให้เพื่อนร่วมทีมที่เดินทางไปร่วมงานที่ร้านอาหารของ วัตสัน ถูกปรับเงินค่าแหกกฎล็อคดาวน์และทาง วัตสัน เจ้าของร้านที่ทางเฟรนไชน์มองว่าเป็นต้นตอของการจัดอีเวนท์ต้องจ่ายหนักมากกว่าคนอื่น
ฮิวสตัน เท็กแซนส์ ได้สั่งปรับเงินผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมงานไปวันนั้นคนละ 5,000 เหรียญสหรัฐ (หรือ 160,000 บาท) หลังจากที่ละเมิดโปรโตคอลของลีก เอ็นเอฟแอล ที่สั่งห้ามผู้เล่นรวมตัวกันมากกว่า 3 คน แต่สำหรับในวันนั้น ภาพถ่ายที่หลุดรอดออกมาก็มีผู้เล่นของ เท็กแซนส์ ไม่ต่ำกว่า 6 คนที่ได้เดินทางไปร่วมงานและทางเจ้าของร้าน เดอชอน วัตสัน ก็ถูกปรับมากกว่าเพื่อน เป็นจำนวนเงิน 7,500 เหรียญสหรัฐ (หรือ 240,000 ล้านบาท)
หลังจากที่เป็นเจ้าของงาน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำตามกฎระเบียบและไม่เห็นด้วยที่ทาง เอ็นเอฟแอล จะต้องมาปรับเงินด้วยที่ วัตสัน ได้ออกมาชี้แจงกับเหตุการณ์ในวันนั้นว่า
“ พวกเราเข้าใจกฎระเบียบดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการป้องกันโดยการใส่หน้ากาก หรือแม้กระทั่งการล้างมือ และการเว้นระยะห่างภายในงาน พวกเราก็ได้ปฏิบัติตามกฎมาตรฐานทั่วไปที่ได้ทำไว้ ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจว่ามาตรการการละเมิดกฎครั้งนี้ใช้ตัวอะไรชี้วัด ”
ทาง เอ็นเอฟแอล จึงได้สวนกลับทันทีว่า ห้ามรวมตัวกันมากกว่า 3 คนเป็นกฎโปรโตคอลของลีกที่ได้ตั้งไว้อยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีตัวอย่างหลังจากที่ ดาร์เรน วอลเลอร์ ปีกในของ ลาสเวกัส เรดเดอร์ส เคยถูกสั่งปรับเงิน 30,000 เหรียญสหรัฐ (หรือ 960,000 บาท) ส่วนเพื่อนร่วมทีมอีก 9 คนโดนคนละ 15,000 เหรียญสหรัฐ (หรือ 480,000 บาท)
