เป็นที่แน่นอนแล้วว่า การแข่งขันกอล์ฟ ยูโรเปียน ทัวร์ ในช่วงวันที่ 19-22 พฤศจิกายนนี้ จะมีการควบรวมกับการแข่งขันกอล์ฟรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศอเมริกาใต้อย่าง “ โจเบิร์ก โอเพน ” ซึ่งเป็นรายการ โคแซงชัน ระหว่าง ยูโรเปียน ทัวร์ และ ซันไชน์ ทัวร์ โดยจะมีการชิงเงินรางวัลสูงถึง 19.5 ล้านแรนด์ หรือประมาณ 37.34 ล้านบาท
การแข่งขันจะจัดขึ้นที่ แรนด์ปาร์ค กอล์ฟ คลับ ที่อยู่ใกล้กับ โยฮันเนสเบิร์ก เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ และถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟรายการแรกของประเทศในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ในช่วงสภาวะวิกฤติไวรัส โคโรนา 2019 ที่ได้ระบาดไปทั่วโลก
“ โจเบิร์ก โอเพน ” ปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากสำหรับวงการกอล์ฟแอฟริกาใต้ อันเนื่องมาจากการที่ ยูโรเปียน ทัวร์ ให้เกียรติร่วมจัดการแข่งขัน และยกให้เป็นหนึ่งรายการสำคัญในช่วงปลายปี 2020 หมายความว่า แอฟริกาใต้มีศักยภาพมากพอที่จะดึงดูดนักกอล์ฟระดับโลกให้ร่วมลงแข่งขันในช่วงสภาวะโรคระบาด
ล่าสุด โมโลอันเตา เจฟฟรีย์ มาคูโบ นายกเทศมนตรีเมือง โยฮันเนสเบิร์ก ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ ทางเรายินดีอย่างมากที่จะประกาศว่า การแข่งขันกอล์ฟระดับโลกจะเกิดขึ้นที่เมืองของเรา ต้องยอมรับว่า นับตั้งแต่มีการแข่งขันรายการนี้เมื่อปี 2007 เราก็ได้สร้างนักกอล์ฟเก่ง ๆ ขึ้นมามากมาย ”
“ โจเบิร์ก โอเพน ยังได้สร้างประโยชน์ให้กับชาวโยฮันเนสเบิร์กเป็นอย่างมาก เพราะรายการนี้ได้กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้เป็นอย่างดี และผมเชื่อเหลือเกินว่า ในสภาวะไวรัส โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักนี้ แต่ทางแอฟริกาใต้ได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก ”
“ ดังนั้น การที่เราได้รับจัดการแข่งขันกอล์ฟระดับนานาชาติอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นทางเศรษฐกิจและองค์การกีฬาของประเทศ อย่างแน่นอน ”
