ถือเป็นสุดยอดความสำเร็จของประวัติศาสตร์วงการรถแข่งสูตรหนึ่ง เมื่อทีม เมอร์เซเดส เอเอ็มจี สามารถประกาศศักดาคว้าแชมป์โลกติดต่อกันเป็นสมัยที่ 7 ได้สำเร็จ ในการแข่งขันรถ ฟอร์มูลาวัน ประจำปี 2020 หลังจากที่ยอดนักขับอย่าง ลูอิส แฮมิลตัน กับ วอล์ตเตรี บ็อตทาส พากันกอดคอขึ้นโพเดียมในอันดับ 1 และอันดับ 2 จากการแข่งขันสนามล่าสุด “ เอมิเลีย โรมันญา กรังด์ปรีซ์ ” ที่ประเทศอิตาลี
การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก สนามที่ 13 ของปี 2020 “ เอมิเลีย โรมันญา กรังด์ปรีซ์ ” ที่ประเทศอิตาลี ที่ได้แข่งขันกันในรอบสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยรอบชิงชนะเลิศ มีการดวลความเร็วกันทั้งหมด 63 รอบสนาม
ลูอิส แฮมิลตัน กับ วอล์ตเตรี บ็อตทาส ที่ก่อนแข่งมีโอกาสที่จะสร้างสถิติให้กับทีมของพวกเขา หากสามารถชนะในสนามนี้ได้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์โลก 7 ปีติดต่อกัน
โดยเริ่มแข่ง แฮมิลตัน ต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการปรับตัวก่อนจะขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในที่สุด และสุดท้าย ยอดนักขับชาวอังกฤษก็เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 28 นาที 32.430 วินาที ตามด้วยอันดับ 2 บ็อตทาส และอันดับ 3 แดเนียล ริคคิอาร์โด ของ เรโนลต์
จากการเข้าเส้นชัยได้ทั้งอันดับ 1 และ 2 ของ เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ส่งผลให้ทีมสามารถเก็บคะแนนรวมเป็น 479 แต้ม คว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้าง เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกันเป็นที่เรียบร้อย แม้การแข่งขันในปีนี้ยังไม่จบอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนับเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาเป็นอย่างมาก ที่คว้าแชมป์โลกได้เพียงแค่ฤดูกาลมาถึงสนามที่ 13 เท่านั้น
ในขณะที่สนามต่อไป หรือ เรซที่ 14 ของซีซัน จะเป็นรายการ “ เตอร์กิช กรังด์ปรีซ์ ” ณ สนาม อินเตอร์ ซิตี อิสตันบูล พาร์ค ในประเทศตุรกึ ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนนี้
