จบลงไปแล้วกับศึกยัดห่วงบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ฤดูกาล 2020 ที่ถึงแม้จะมีปัญหาจากสภาวะโรคระบาด จนทำให้การแข่งขันต้องมีการเลื่อนออกไป และสุดท้ายต้องมาแข่งขันกันที่ ดิสนีย์ เวิลด์ ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และ ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส ก็กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเอาชนะ ไมอามี ฮีต ในเกมที่ 6 ไปได้ด้วยสกอร์ 106-93 คะแนน ปิดซีรีส์ชนะไป 4 ต่อ 2 เกม
และคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดนี้ก็คือ เลอบรอน เจมส์ ที่เขาทำ ทริปเปิล ดับเบิล 28 แต้ม 14 รีบาวน์ และ 10 แอสซิสต์ และนี่ถือเป็นการทำสถิติ ทริปเปิล ดับเบิล ในรอบชิงชนะเลิศ เอ็นบีเอ ถึง 11 ครั้งอีกด้วย
ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมในครั้งนี้ ทำให้ตัวเขาได้คว้ารางวัล MVP ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับเป็นครั้งที่ 4 จากการเล่นบาสเกตบอลอาชีพ 17 ปีเต็มของเขา เป็นรองเพียงแค่ ไมเคิล จอร์แดน ที่เคยทำได้ถึง 6 ครั้งเท่านั้น ในการคว้ารางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่า ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ภายหลังจบเกม เจมส์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ ผมขอบคุณทุก ๆ คน และผมต้องให้เครดิตด้วยความเคารพอย่างยิ่ง เช่นเดียวกันกับทุก ๆ คนในทีม ที่สมควรได้รับเกียรตินี้เป็นอย่างมาก ผมประทับใจมากที่ได้คว้าแชมป์ เอ็นบีเอ อีกครั้งหลังจากที่ต้องรอมาตั้งแต่ปี 2018 ”
“ ผู้จัดการทั่วไปของทีมอย่าง ร็อบ เพลินกา ก็ต้องขอบคุณเขาด้วยเช่นกัน รวมไปถึง โค้ช แฟรงค์ โวเกิล ก็ต้องได้รับความเคารพในเรื่องนี้ ผมขอแสดงความเคารพทุกคนจากใจ ”
นอกจาก เลเกอร์ส ที่ได้เป็นแชมป์ เอ็นบีเอ ครั้งแรกในรอบ 10 ปีแล้วหลังจากที่พวกเขาเคยทำได้ในปี 2010 ซึ่งในครั้งนี้ เจมส์ ยังคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในรอบชิงชนะเลิศ 4 สมัย และการเป็นนักบาสเกตบอลคนแรก ที่พา 3 ทีมได้แชมป์ เอ็นบีเอ ไม่ว่าจะเป็นทีมที่เขาเคยเล่นอย่าง ไมอามี ฮีต และ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส