เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการติดตามผลการใช้มาตรการลดภาระค่าครองชีพและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการในรอบปีนี้คือ การเพิ่มงบประมาณให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, การเพิ่มงบประมาณให้องค์กรช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน, จัดทำโครงการคนละครึ่ง ครั้งที่ 4 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน กระตุ้นให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ จากโครงการและมาตรการเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการ และประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด มีผู้ใช้สิทธิ์ตามมาตรการต่าง ๆ โดยรวมมากถึง 40.94 ล้านคน โดยมีประชาชนได้ออกมาใช้จ่ายมากถึง 68,441.16 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามโครงการต่าง ๆ คือ โครงการคนละครึ่งครั้งที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิ์รวมกว่า 26.27 ล้านราย รวมเป็นการใช้จ่ายสูงถึง 60,149.62 ล้านบาท แบ่งเป็นการใช้จ่ายจากประชาชน 30,621 ล้านบาท และการใช้จ่ายจากรัฐบาล 29,528.62 ล้านบาท, โครงการเพิ่มงบประมาณให้ผู้มีบัตรสวัสดิการรัฐ มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 13.37 ล้านราย รวมเป็นยอดใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมด 7,625.46 ล้านบาท และโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ มีผู้ใช้สิทธิ์ 1.3 ล้านราย รวมเป็นยอดใช้จ่าย 666.08 ล้านบาท
นอกจากนี้นายธนกร ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงภาคบริการ การท่องเที่ยว ได้รับผลดีจากช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย รักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยในช่วงเวลานี้ ซึ่งประชาชนสามารถใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ได้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2565 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเดินหน้าร่วมกันออกแบบมาตรการต่าง ๆ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในแต่ละช่วงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งต้องวิเคราะห์ปัจจัยหลายด้านควบคู่กัน เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในโอกาสต่อไป”
