Assassin’s Creed Valhalla สร้างสถิติใหม่ให้กับ Ubisoft เป็นเกมแรกของบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ประเทศฝรั่งเศสที่โกยรายได้ทะลุหลัก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐหลังจำหน่ายเพียงหนึ่งปีเศษ นอกจากนี้ Ubisoft ประกาศให้เล่นเกม Assassin’s Creed Valhalla แบบฟรี ๆ ระหว่างวันที่ 24 – 28 กุมภาพันธ์นี้
Ubisoft ซึ่งมีสตูดิโอพัฒนาเกมกระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก ประกาศความสำเร็จของ Assassin’s Creed Valhalla ภาคหลักลำดับที่ 12 ของแฟรนไชส์ Assassin’s Creed โดยเป็นเกมแรกของบริษัทที่สร้างรายได้รวมมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท
Assassin's Creed Valhalla เป็นเกมแนวแอ็คชั่นสวมบทบาท พัฒนาโดยทีมงาน Ubisoft Montreal เป็นภาคต่อของ Assassin's Creed Odyssey (2018) โดยวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2020 สำหรับแพลตฟอร์ม Microsoft Windows, PlayStation 4, Xbox One, Xbox Series X/S, Stadia และ PlayStation 5
ตัวเกมประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มียอดขายสัปดาห์แรกมากกว่าทุกภาคของ Assassin's Creed โดย ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 Ubisoft ออกข่าวว่ามีผู้เล่นเกมภาค Valhalla ไปแล้วมากกว่า 1.8 ล้านคน และจบปีด้วยอันดับ 5 ของเกมที่ขายได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2020 ทั้งที่ลงตลาดแค่หนึ่งเดือนเศษ ส่วนปี 2021 รั้งอันดับ 16
อย่างไรก็ตาม รายได้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐของ Assassin's Creed Valhalla ไม่ได้มาจากเฉพาะการขายตัวเกม แต่รวมถึงอุปกรณ์สวมใส่และชุดต่าง ๆ ที่ต้องใช้เงินจริงซื้อ พร้อมด้วยภาคเสริมอย่าง Wrath of the Druids และ The Siege of Paris ยังไม่นับ Dawn of Ragnarok ที่จะวางขายในวันที่ 10 มีนาคมนี้
ล่าสุด Ubisoft ยืนยันว่าทีมงาน Ubisoft Montreal มีแผนจะพัฒนา สนับสนุน และสร้างสีสันใหม่ ๆ ให้กับแฟนเกมของ Assassin's Creed Valhalla ต่ออย่างน้อย 1-2 ปี หลังจากปล่อยอัปเดตเวอร์ชัน 1.5.0 ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ตามด้วยภาคเสริม Dawn of Ragnarok
ไม่เพียงแค่นั้น บริษัทเกมยักษ์ใหญ่แห่งเมืองน้ำหอมประกาศข่าวดีให้กับผู้ที่ยังไม่ได้ซื้อ Assassin's Creed Valhalla สามารถทดลองเล่นฟรีได้ระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์
