ศาลรัสเซียสั่งลงโทษจำคุกวัยรุ่นชาวไซบีเรีย 3 คนในข้อหาเตรียมการเพื่อวางระเบิดอาคารหน่วยข่าวกรองของรัสเซียถึงแม้เป็นอาคารเสมือนจริงในเกม Minecraft ก็ตาม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลทหารในเมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกวัยรุ่นจำนวน 3 คน ได้แก่ Uvarov, Mikhailenko และ Andreyev ผู้ต้องหาในคดีเตรียมการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระทำการก่อการร้าย
Uvarov ถูกตัดสินจำคุก 5 ในเรือนจำ ในขณะที่ Mikhailenko และ Andreyev ถูกตัดสินจำคุก 3 และ 4 ปี ตามลำดับแต่รอลงอาญา โดยก่อนหน้านี้ Mikhailenko และ Andreyev ยอมสารภาพผิดในข้อกล่าวหาและถูกกักบริเวณภายในบ้าน ส่วน Uvarov ปฏิเสธข้อกล่าวหาและถูกนำตัวเข้าสถานกักกันก่อนการพิจารณาคดีของศาล ซึ่งเขาอ้างว่าถูกกดดันทางร่างกายและจิตใจเพื่อให้สารภาพความผิด
วัยรุ่นทั้งสามคนถูกจับกุมตัวในเดือนมิถุนายน 2020 ด้วยข้อหาการปลุกระดม การวางแผนก่อการร้าย และร่วมมือกับ Azat Miftakhov ผู้นำการต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองรัสเซีย (Federal Security Services หรือ FSB) ได้หลักฐานสำคัญเป็นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพบคลิปวิดิโอที่พวกเขาทำดอกไม้เพลิง ขว้างระเบิดโมโลตอฟค็อกเทลใส่กำแพง รวมถึงแผนการที่จะระเบิดอาคารที่ทำการของ FSB ซึ่งพวกเขาสร้างขึ้นมาในเกม Minecraft
คนในครอบครัว อดีตครู และทนายความส่วนตัว ต่างพูดถึงวัยรุ่น 3 คนตรงกันว่า พวกเขาปกติดีและเหมือนเด็กทั่วไป โดยมารดาของ Mikhailenko เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้วว่า “ ฉันรู้ความเคลื่อนไหวของเขาตลอด รู้ว่าเขาอยู่ไหน รู้แม้กระทั่งตอนที่พวกเขาทำระเบิด แต่ก็แค่ระเบิดเล็ก ๆ เป็นการเล่นแผลง ๆ ของเด็กเท่านั้นเอง ”
ทางด้าน Uvarov ให้การต่อศาลว่า “ ผมชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผมชอบเรียนรู้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ ผมยังชอบดูรายการด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษา ”
“ ผมไม่ใช่ผู้ก่อการ้าย ผมไม่ได้ทำความผิดใด ๆ ผมแค่อยากเรียนให้จบแล้วหนีไปให้ไกลจากที่นี่ ที่ที่ผมไม่โดนเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษคอยรบกวนรังควาน ”
อนึ่ง Minecraft เป็นเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัยสไตล์ Open-World จุดเด่นของเกมอยู่ที่การให้อิสระแก่ผู้เล่นว่าจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งประกอบด้วย 2 โหมดคือ โหมด Survival ซึ่งผู้เล่นต้องหาทรัพยากรเพื่อเอาตัวรอด และโหมด Creative ซึ่งผู้เล่นจะต้องใช้จินตนาการด้วยการสร้างโลกเสมือนจริง และน่าจะเป็นโหมดที่วัยรุ่นรัสเซียได้ใช้ในการสร้างอาคารที่ทำการของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย
