ภาพหลุดบ่งชี้ NetherRealm กำลังปั้นภาค 12 ของ Mortal Kombat

39

ไม่แน่ใจเป็นภาพหลุดแบบตั้งใจปล่อยหวังผลเรียกกระแสหรือเปล่าเมื่อทีมงานระดับหัวแถวของค่าย NetherRealm เผลอทวีตภาพที่บ่งบอกว่ากำลังมีการพัฒนาเกมภาคที่ 12 ของแฟรนไชส์ดัง Mortal Kombat มีรายงานว่า ถัดจากนั้นเพียง 10 นาที Jonathan Andersen ได้ลบโพสต์ออกจากทวิตเตอร์เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังช้าเกินไปสำหรับมือแคปชั่นที่นำมาขยายผลต่อเป็นข่าวลือว่า NetherRealm กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาเกม Mortal Kombat 12

Mortal Kombat

Jonathan Andersen หนึ่งในผู้จัดการฝ่ายผลิตระดับอาวุโสของ NetherRealm Studios บริษัทพัฒนาเกมสัญชาติอเมริกันในนครชิคาโก ซึ่งอยู่ในเครือ Warner Bros. ได้โพสต์ภาพโต๊ะทำงานบนสื่อทวิตเตอร์ ซึ่งเมื่อมีการดูแบบเจาะลึกจะเห็นอาร์ตเวิร์คของเกม Mortal Kombat, Mortal Kombat II และ Injustice 2 วางอยู่ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนเกมเป็นภาพที่มุมหนึ่งของจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงให้เห็นไฟล์ชื่อว่า MK12_Mast… อย่างไรก็ตาม หลายคนกลับมองว่านี่ไม่ใช่ภาพรั่วแต่มีโอกาสเป็นการจงใจปล่อยเพื่อหวังผลทางการตลาด เพราะบนจอคอมพิวเตอร์ปรากฏส่วนหนึ่งของอีเมลที่เขียนว่า “ แฟน ๆ ของพวกเรารีบขุดอินเทอร์เน็ตเพื่อหาร่องรอยของ Mortal Kombat ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดี ”

Mortal Kombat เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมต่อสู้เก่าแก่โดย 5 ภาคแรกได้แก่ Mortal Kombat (1992), Mortal Kombat II (1993), Mortal Kombat 3 (1995), Ultimate Mortal Kombat 3 (1995) และ Mortal Kombat Trilogy (1996) ยังเป็นกราฟิกแบบ 2D ขณะที่ 4 ภาคแรก เล่นแบบแพลตฟอร์ม ARCADE และ Mortal Kombat Trilogy ลงให้กับ PlayStation 1 และ Nintendo 64

ภาคล่าสุดคือ Mortal Kombat 11 วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2019 ได้รับการพัฒนาจาก NetherRealm ซึ่งรับหน้าที่ดูแลแฟรนไชส์ก่อนหน้านี้อีก 2 ภาคหลักคือ Mortal Kombat 9 (2011) และ Mortal Kombat X (2015) รวมถึง Mortal Kombat Arcade Kollection (2011)

อนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา Jeff Grubb นักปล่อยข่าววงในที่ได้รับการเชื่อถือ ได้รายงานว่า Netherealm ได้เริ่มพัฒนาเกม Mortal Kombat 12 และมีแผนจะวางจำหน่ายก่อนเกม Injustice 3 เนื่องจากมองว่าเมื่อเทียบระหว่างสองเกมนี้แล้ว Mortal Kombat ได้รับความนิยมและมีโอกาสสร้างรายได้มากกว่า

Previous articleEvil Dead: The Game เลื่อนอีกแล้วเป็นวันที่ 13 พฤษภาคม
Next article3 ปีกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของร้าน Epic Games Store