Dota2 ออกมาตั้งแต่กลางปี 2013 และยังเป็นเกมยอดฮิตมีผู้เล่นมากมายทั่วโลกตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับเกมเมอร์วัยรุ่นในเกาหลีเหนือเพิ่งมีโอกาสเล่นเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนกระแสความนิยมถูกจุดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากสนุกกับ Dota ภาคแรกนานหลายปี
Dota เป็นเกมซีรี่ส์แนว strategy พัฒนาโดย Valve ออกภาคแรกเมื่อปี 2003 ในชื่อ Defense of the Ancients หรือ DotA ในฐานะ MOBA mod ของเกม Warcraft III: Reign of Chaos (2002) และภาคขยาย The Frozen Throne โดยเกมเพลย์เบื้องต้น เป็นการต่อสู้ของ 2 ฝ่าย แต่ละฝ่ายมีสมาชิก 5 คน ซึ่งควบคุมตัวละครที่เรียกว่า Heroes ที่ต้องร่วมมือกันบุกทำลาย Ancient หรือฐานทัพกลางของศัตรู
DotA มีภาคต่ออีก 10 ปีต่อมา คือ Dota 2 ออกมาในเดือนกรกฎาคม 2013 ลงให้กับแพลตฟอร์ม Microsoft Windows, Linux และ OS X ยังคงใช้เกมเพลย์เดียวกับภาคแรก แต่เพิ่มเติมการสนับสนุนและกลไกใหม่ ๆ พร้อมแยกเป็นเอกเทศจากจักรวาลเกม Warcraft
ซีรี่ส์ Dota ยังสามารถทะลวงข้อจำกัดทางเสรีภาพของรัฐบาลเกาหลีเหนือเข้าไปเกาะกุมหัวใจของวัยรุ่นแดนโสมแดง เป็นหนึ่งในเกมยอดฮิตถึงขนาดมีคำกล่าวในหมู่วัยรุ่นเกาหลีเหนือว่า “ อย่ามาบอกว่าตนเองเป็นลูกผู้ชายตัวจริงหากไม่รู้จัก Dota ”
วัยรุ่นเกาหลีเหนือที่หนีมาใช้ชีวิตในประเทศเกาหลีใต้ ได้โพสต์บนโซเชี่ยลมีเดียว่า “ ตัวเกมในซีรี่ส์ที่เล่นกันคือ DotA หรือภาคแรก ส่วน Dota 2 พวกเราเพิ่งได้เล่นเมื่อไม่นานมานี้ อย่างที่ทราบกัน อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งต้องห้ามของประชาชนในเกาหลีเหนือ เวลาเล่นจึงเป็นแบบออฟไลน์ที่ต้องมาเจอหน้ากันเท่านั้น ”
เกาหลีเหนือ ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ประสบปัญหาดังกล่าวเพราะเชื่อว่าประชาชนที่อยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการหรือคอมมิวนิสต์ที่เจอประสบการณ์เดียวกัน อย่างน้อยคิวบาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการยืนยันเรื่องนี้
Dota 2 เป็นเกมหนึ่งที่ถูกนำไปจัดการแข่งขันอีสปอร์ตและได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีลีกและทัวร์นาเมนท์ระดับอาชีพมากมาย และ Valve ได้จัดรายการ Dota Pro Circuit ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์ซีรี่ส์เก็บคะแนนเพื่อสิทธิร่วมชิงชัยศึกใหญ่แห่งปีอย่าง The International ซึ่งมีเงินรางวัลสูงมาก
ใครจะไปรู้หากเรื่องนี้เข้าถึงหูของผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ อาจมีการเปิดโปรเจกต์สนับสนุนการเล่นเกม Dota 2 ในหมู่เยาวชนเกาหลีเหนือ เพื่อส่งตัวแทนประเทศเข้าร่วมแข่งขันรายการระดับนานาชาติบ้างก็ได้
