Call of Duty เกมสงคราม เป็นหนึ่งในเกมที่มีภาคใหม่ออกมาเยอะมากนับจากปี 2003 เฉพาะภาคหลักในธีม World War II, Modern Warfare และ Black Ops แค่นี้ก็ปาเข้าไป 16 ตอนแล้ว บวกอีกสามจากเกม Standalone ที่แยกเดี่ยวไม่เกี่ยวใคร
เกมออกถี่ขนาดนี้ Activision บริษัทเกมยักษ์ใหญ่สุดอื้อฉาวในสหรัฐอเมริกา จึงต้องกระจายงานให้หลายสตูดิโอช่วยพัฒนาไม่ว่าจะเป็น Infinity Ward, Treyarch, Sledgehammer Games และ Raven Software
สำหรับภาคใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมาคือ Call of Duty: Vanguard มีเนื้อเรื่องอยู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่งานนี้ Sledgehammer Games โดนนักรีวิวและผู้เล่นถล่มยับในข้อหาตัวเกมน่าเบื่อ ราบเรียบ และซ้ำซากจำเจ แย่ถึงขั้นต้องจัดโปรขายลดราคาเป็นช่วง ๆ ภายในเวลาเพียง 2 เดือนที่ออกมา
Robert Bowling อดีตพนักงานของ Infinity Ward ซึ่งเคยมีส่วนร่วมพัฒนาเกมซีรี่ส์ Call of Duty ได้ออกมาให้ความเห็นว่า แฟรนไชส์นี้ควรเลิกหารับประทานจากชื่อเสียงเก่า ๆ ถึงเวลาต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติปฏิรูปแนวทางเกมอย่างเป็นรูปธรรมหากต้องการสานต่อให้ Call of Duty เป็นเกมซีรี่ส์ที่ดังยั่งยืน เนื่องจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ เกมมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว มีแต่ความซ้ำซาก ปราศจากความสดใหม่
“ ถึงเวลาที่ Call of Duty ต้องหันกลับมาเริ่มสร้างตัวใหม่อีกครั้ง เริ่มต้นวงจรใหม่ให้กับเกมซีรี่ส์ ไม่ใช่ทำเพียงสร้างภาคต่อแบบปีต่อปีไปเรื่อย ๆ จุดที่ทีมงานต้องโฟกัสคือเกมเพลย์ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนเนื้อเรื่องคอนเทนต์ ”
“ และที่สำคัญกว่านั้น Activision ต้องปฏิบัติกับเกมเมอร์เหมือนเป็นชุมชนที่ให้การสนับสนุนบริษัท ไม่ใช่แค่ลูกค้าซื้อเกม ” อดีตทีมงานพัฒนา Call of Duty ทิ้งท้ายฝากไปถึงบริษัทแม่ ซึ่งมีปัญหาภายในเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ จนโดนกระแสบอยคอตต์ให้สถานการณ์หนักขึ้นไปอีก