ถ้าเป็นแฟนหนังต้องรู้จักคำว่า Sequel ที่หมายถึง “ภาคต่อ” กับ Prequel ที่แปลว่า “ภาคก่อนหน้า” ซึ่งปกติจะออกมาหลังจากหนังดังแล้วเพื่อย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
อย่างเรื่อง Star Wars ออกมาภาคแรกเมื่อปี 1977 ซึ่งประสบความสำเร็จสูงถึงขั้นเป็นปรากฏการณ์ ป๊อบ-คัลเจอร์ เลยมีออกตามมาอีก 2 ภาคคือ The Empire Strikes Back ปี 1980 และ Return of the Jedi ปี 1983 แต่พอสร้างไตรภาค Pre-quel ออกฉายในปี 1999, 2002 และ 2005 ทำให้สามภาคแรกก่อนหน้านี้กลายเป็น ภาค 4-5-6 เสียอย่างนั้น
ในวงการวิดีโอเกมก็คล้ายกัน “ภาคก่อนหน้า” สามารถนำมาใช้กับเกมดัง ๆ ได้เสมอ อย่างน้อยก็เป็นไอเดียให้สร้างเกมเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตอน และอาจมากกว่านั้นหากฮิตขึ้นมา หรือถ้ามีตัวละครหรือสตอรี่น่าสนใจ ก็อาจทำ “ภาคแยก” หรือ Spin-off ออกมาล้วงเงินจากกระเป๋าตังค์แฟนเกมได้อีก
Resident Evil เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจ เกม 3 ภาคแรก ซึ่งออกช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 90 แต่ในปี 2002 แทนที่แฟนคลับ “ผีชีวะ” จะได้เล่นเกมภาค 4 กลับต้องเสียเงินไปกับ Resident Evil เวอร์ชั่นรีเมคภาคแรกของปี 1996 กับ ภาค 0 หรือ Resident Evil Zero ซึ่งเป็นภาค Prequel แทน ก่อนที่ภาค 4 จะตามมาอีก 3 ปีถัดไป
แต่ในมุมมองของนักวิจารณ์มองว่า Resident Evil Zero ทำออกมาได้ดี มีความแปลกใหม่ และสร้างบรรยากาศได้ดีไม่แพ้ภาคก่อนหน้า ไม่ได้ทำงานแบบสุกเอาเผากิน ฆ่าเวลาระหว่างรอ Sequel ของภาคหลัก
อีกตัวอย่างหนึ่งเป็นเกมที่ถูกนำไปสร้างเป็นหนังเหมือนกับ Resident Evil นั่นคือ Silent Hill หรือ “เมืองห่าผี” ซึ่งมี Silent Hill: Origins เป็นภาค Prequel ของเกมแรกที่ออกมาเมื่อปี 1999 โดยวางจำหน่ายในปี 2007 แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้า 2-3 ปี ว่าด้วยเรื่องราวของ Travis Gredy คนขับรถบรรทุกดวงกุด จัดว่าเป็นเกม “ภาคก่อนหน้า” ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเช่นกัน
