ผู้เล่น Call of Duty มากกว่า 300,000 ราย ถูกแบนหลังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
Activision ผู้เผยแพร่วิดีโอเกมสัญชาติอเมริกัน ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านทางเว็บบล็อกส่วนตัว โดยยืนยันว่าเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา บัญชีผู้เล่นเกม Call of Duty มากกว่า 300,000 ราย ถูกลงโทษด้วยการแบนแบบถาวร หลังมีพฤติกรรมเหยียดเพศ, เหยียดเชื้อชาติ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพฤติกรรม Toxic
หากอ้างอิงจาก Activision มีการเปิดเผยว่า ผู้เล่นเกม Call of Duty มากกว่า 300,000 ราย ส่วนใหญ่ถูกลงโทษแบนถาวรหลังจากตั้งชื่อตัวละครเหยียดเชื้อชาติ รวมไปถึงการตั้งชื่อ Clan Tags หรือการพิมพ์ข้อความภายในกล่องแชท
ประเด็นดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างมากเนื่องจาก Activision ไม่ต้องการให้ผู้เล่นภายในเกมของเขาแสดงถึงความเกลียดชัง, การต่อต้านเรื่องของเพศนิยม รวมไปถึงการล่วงละเมิดต่าง ๆ ที่ทำให้อีกฝ่ายเกิดความอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียง
อย่างไรก็ตาม Activision ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาจะเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับทุก ๆ คน ที่สำคัญจะควบคุมคำพูดที่ส่อถึงความเกลียดชัง, การเหยียดเชื้อชาติ, การล่วงละเมิด และการต่อต้านรักร่วมเพศ
ทั้งนี้ทีมพัฒนา Call of Duty ภาค Modern Warfare กับ Warzone มีความตั้งใจอย่างมากที่จะกำจัดผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกง และดัดนิสัยผู้เล่นที่ชอบแสดงพฤติกรรม Toxic โดยก่อนหน้านี้มีผู้เล่นมากกว่า 400,000 ราย ถูกแบนจากเกม Call of Duty เนื่องจากใช้โปรแกรมโกง และนี่ถือเป็นการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า Activision ให้ความสำคัญกับสังคมภายในเกมขนาดไหน