หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากใน 2 ภาคแรกสำหรับ The Bourne ภาพยนตร์สายลับจารชนที่ไม่สามารถจดจำเรื่องราวของตนเองได้ แต่สกิลการต่อสู้รวมไปถึงสกิลทั้งภาษาและการเอาตัวรอดของเขายังคงใช้ได้เป็นอย่างดี และดูเหมือนว่าในครั้งนี้ ตัวเขาจำเป็นที่จะต้องเจอกับเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ท้าทายมากขึ้น
The Bourne Ultimatum (2007) หรือในชื่อไทยว่า “ ปิดเกมล่าจารชนคนอันตราย ” เล่าถึงเรื่องราวของ เจสัน บอนด์ ที่ใช้ชีวิตในฐานะชายที่ไร้สัญชาติและไม่สามารถจดจำอดีตได้ ในเวลานี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าเขาคือใคร และก็ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นอาวุธร้ายที่สามารถทำลายทุกอย่างได้ตามที่เขาปรารถนา
แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้เสีย มาเรีย คนรักไปจากการถูกมือสังหารยิงกระสุนฝังร่างของเธอ นั่นกลายเป็นภาพจำที่ทำให้เขาต้องการที่จะแก้แค้นเพียงเท่านั้น และถ้าเขาแก้แค้นได้สำเร็จ เขาก็ต้องการที่จะหายตัวไปตลอดกาล และลืมชีวิตที่ถูกขโมยไปทั้งหมด
ทั้งนี้เรื่องราวที่วุ่นวาย ที่ดูเหมือนว่าองค์กรลับได้ทำให้ตัวเขาเป็นที่โด่งดังทางหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้เขาจากการต้องเป็นผู้แก้แค้นกลับเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าเสียเอง จากทุกฝ่ายทั้งตำรวจและเหล่าวายร้าย ซึ่งดูเหมือนว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ถูกสร้างมาในรูปแบบเดียวกันกับเขา เพื่อให้เป็นนักฆ่า นั่นคือความท้าทายครั้งใหญ่แบบที่สุด
สำหรับคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง The Bourne Ultimatum ในแง่บวก หนังยังคงมีฉากที่ทำให้ผู้ชมได้ลุ้นระทึก การต่อสู้ รวมถึงฉากแอ็คชัน ที่สนุกสุดมันส์และการตามหาความทรงจำของจารชนรายนี้
ในแง่ลบ ดูเหมือนว่าตัวเรื่องที่เริ่มซ้ำกับ 2 ภาคแรกอาจจะเริ่มกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้หนังไม่น่าติดตามต่อไป