หากผู้ชมที่คิดถึงภาพยนตร์การแข่งรถที่เวอร์เกินจริง และหลายครั้ง เรื่องราวได้หลุดออกจากรูปแบบภาพยนตร์ช่วงแรกไปไกล และแน่นอนว่าหากต้องการชมบรรยากาศการแข่งรถแบบจริงจัง อาจจะต้องย้อนกลับไปชมภาคแรกของ The Fast and the Furious
The Fast and the Furious (2001) หรือในชื่อไทยว่า “เร็วแรงทะลุนรก ” เล่าถึงเรื่องราวของ โดมินิค ทอเรตโต ที่ตัวเขาขับรถบนถนนในนคร ลอส แองเจลีส ราวกับว่าเขาเป็นเจ้าของถนนแห่งนี้ เขาพร้อมด้วยพลพรรคทีมงานใช้เวลาแต่ละวันปรับแต่งเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะที่สูง โดยการแต่งรถของเขานั้นเน้นไปที่หัวฉีดน้ำมันที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ และนั่นทำให้รถของเขาเหนือกว่าคู่แข่งมากมาย
ทว่า ไบรอัน ที่อยู่ในกลุ่มการแข่งขันนี้ด้วย ตัวเขากระหายพร้อมที่จะลงแข่งขันตลอด เขารู้สึกเท่ห์ในยามที่ได้อยู่บนท้องถนน แต่ทว่าเมื่อการแข่งจริงเกิดขึ้น เขากลับเป็นรองโดมินิค และมักจะถูกดูถูกจากคนรอบข้าง ทว่าทุกอย่างดูเหมือนเป็นการแข่งรถปกติ แต่ที่จริงแล้วไบรอันเป็นตำรวจที่แฝงตัวมา
ไบรอันปกปิดฐานะได้อย่างมิดชิด และกำลังสืบเสาะหากลุ่มอาชญากรปล้นรถบรรทุกที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกว้างขวาง ซึ่งตัวเขารวมถึงกลุ่มตำรวจที่ต้องการหยุดเรื่องราวนี้ให้ได้ แต่ทว่าเขาเองกลับรักในการแข่งรถและศรัทธาในตัวของโดมินิค คู่แข่งของเขา เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับหน้าที่เป็นอย่างมาก
สำหรับคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง The Fast and the Furious ในแง่บวก นี่คือเรื่องราวภาคต้นก่อนที่จะกลายเป็นหนังชื่อดัง ที่มีหลายภาคตามมา จนมีระยะเวลายาวนาน 2 ทศวรรษ และมีถึง 10 ภาค แน่นอนว่า ภาคต้นคือภาคบรรยากาศของการแข่งรถที่แท้จริงสำหรับผู้ชมที่อยากดูเนื้อหาแท้ ๆ ที่ยังไม่ผิดเพี้ยนมากนัก
ในแง่ลบ แฟน ๆ ของ The Fast and the Furious ในภาคใหม่ หากย้อนกลับมาดูภาคต้นอาจจะรู้สึกว่า เหมือนหนังคนละเรื่อง และบรรยากาศทุกอย่างอาจจะตัดอารมณ์มากเกินไป
