กลายเป็นข่าวที่ทำให้ค่ายโรงหนังยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยต้องเครียดเมื่อล่าสุดทาง เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และสาขารังสิต จำเป็นต้องชำระค่าเช่าสำหรับโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่งในช่วงปี 2563 และปี 2564 ให้กับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าทั้งสองธุรกิจจะถูกสั่งปิดชั่วคราวโดยคำสั่งของภาครัฐเพื่อสกัดกั้นโรคระบาดก็ตาม
ปลายเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทาง เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้เร่งทำหนังสือแจ้งโดยตรงต่อตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมติของผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมสิทธิเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ที่สามารถครอบคลุมในส่วนของ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน และสาขารังสิต โดยในเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวระบุไว้ดังนี้
“ ผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติ ไม่อนุมัติ ในทุกเสนอไม่ว่าจะเป็น การงดเรียกเก็บค่าเช่าและค่าบริการ ตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2563 การยกเลิกอัตราค่าเช่า-ค่าบริการขั้นต่ำ และการชำระค่าเช่า-ค่าบริการในอัตรา 15 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากการให้บริการโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่ง ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2563 ”
“ นอกจากนี้ยังไม่อนุมัติ ข้อเสนอขอชำระค่าเช่าและค่าบริการโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่งตามสัญญาเช่า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 ถึง 31 ธันวาคม 2564 เฉพาะเดือนที่มีรายได้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยในปี 2562 ส่วนเดือนที่มีรายได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยจะขอชำระขั้นต่ำ 15 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ”
“ ในขณะเดียวกันยังไม่อนุมัติ ข้อเสนอของดการเรียกเก็บค่าเช่าและค่าบริการ กรณีโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่ง ถูกสั่งปิดตามประกาศของภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ที่ประกาศตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ”
ทว่าจากเรื่องดังกล่าวทั้งหมด สุดท้ายทาง เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยังคงต้องชำระค่าเช่าสำหรับโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่ง ในสาขารัชโยธิน และสาขารังสิต ทั้งช่วงปี 2563 และปี 2564 ต่อไปแม้ว่าจะเป็นช่วงสภาวะโรคระบาดก็ตาม
