MGM มือไว คว้าสิทธิ์สร้างหนังสงครามหุ้น GameStop

35

GameStop

แน่นอนว่าไม่มีข่าวใดในเรื่องการเงินโด่งดังไปกว่าข่าวการต่อสู้กันในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในเวลานี้สำหรับหุ้น GameStop ที่เหล่าผู้เล่นรายย่อยต่างรวมพลังกันซื้อจนกระทั่งในเวลานี้บรรดาแมงเม่าเอาชนะกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่มีผู้บริหารมืออาชีพได้สำเร็จ

และแน่นอนว่า เรื่องราวสงครามตลาดหุ้นในครั้งนี้ถูกทางค่ายหนังชื่อดังอย่าง MGM คว้าสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์จากเรื่องราวของหนังสือที่ยังไม่วางขายที่ชื่อว่า Antisocial Network ของ เบน เมซริช นักเขียนคนดัง ที่เพิ่งยื่นโครงการเขียนหนังสือเรื่องดังกล่าวนี้ไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้บริหารของ MGM ก็ไหวเหลือเกิน เล็งเห็นทันทีว่า นี่จะเป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมให้ความสนใจอย่างแน่นอน

GameStop Corp. เป็นบริษัทผู้ค้าปลีกวีดิโอเกม เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเกม สัญชาติอเมริกัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเกรพวีน รัฐเท็กซัส ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกกว่าห้าพันสาขาทั่วสหรัฐอเมริกาและนอกประเทศ

สำหรับข่าวดังกล่าวมีใจความสำคัญว่า เหล่านักลงทุนวอลล์สตรีทมืออาชีพ และกลุ่มเฮดจ์ฟัน (กองทุนเอกชนที่มักจะมีคนรวยลงทุนให้มืออาชีพเล่นทำกำไรให้) เล็งเห็นการทำเงินจากการขายหุ้นบริษัท GameStop เนื่องจากพวกเขามองว่า ราคาหุ้นจะไม่สูงกว่านี้แล้วเลยทำการขายชอร์ตหรือการยืมหุ้นมาขายก่อนแล้วจะซื้อคืนในภายหลังเพื่อเก็งกำไรจากการที่หุ้นราคาลดลงมาก ๆ (หรือภาษานักพนันคือ แทงลง)

แต่ทว่าเมื่อเหล่าแมงเม่าและชาวเกมเมอร์สุดเกรียนได้ยินแบบนั้น พวกเขารู้ทันทีว่าหุ้นเกมที่พวกเขารักอาจจะถูกทุบให้ราคาตกรุนแรงมาก ๆ และเกิดความเสียหายต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจสูง

พวกเขาจึงตัดสินใจปกป้องหุ้นรักดังกล่าวด้วยการตั้งบอร์ดระดมกำลังซื้อหุ้นให้สูงขึ้นเพื่อเอาคืนเหล่านักลงทุนมืออาชีพ จนตอนนี้หุ้นราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้วในเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น

ผลคือเฮดจ์ฟันด์และเหล่านักลงทุนมืออาชีพขาดทุนอย่างย่อยยับแล้วในเวลานี้ พวกเขาใช้สิทธิ์ขายชอร์ตไม่ได้เพราะไม่มีเงินใช้คืน และกำลังจะหมดตัวในวงการหุ้น

ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนตลาดทุนระดับยักษ์มาก่อน เมื่อเหล่านักลงทุนรายย่อยหรือแมงเม่าเอาชนะเหล่าเซียนในตลาดมืออาชีพอย่างงดงาม อารมณ์เหมือนนิทานเด็กเรื่อง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์

Previous articleIron Man 2 (2010) กลับมาแบบความมันส์คูณ 2 ของซุปเปอร์ฮีโรเกราะเหล็ก
Next articleThe Cave (2019) หนังจากเรื่องจริง การร่วมมือร่วมใจของคนทั้งโลก