ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจภาพยนตร์ในยุคใหม่ แน่นอนว่านับตั้งแต่บริษัท AT&T ได้เข้าร่วมกิจการกับ Time Warner และได้เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง HBOmax ที่ได้มีการสัญญาทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า จะมีการปรับเปลี่ยนแปลงการทำงานครั้งใหญ่ในการเสนอเนื้อหาต่าง ๆ ในอนาคต
ทาง วอลเตอร์ ฮามาดะ ประธานของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ฝ่าย DC Films ได้ยืนยันในเรื่องดังกล่าวนี้ผ่านสื่อระดับโลก New York Times ว่า “ เรามีแผนงานปัจจุบันที่จะสร้างหนังใหญ่จาก DC Comics ให้ออกฉายปีละ 6 เรื่อง โดยจะเริ่มต้นในปี 2022 ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ และอีก 2 เรื่องจะเป็นหนังที่ฉายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ HBOmax เป็นพิเศษโดยเฉพาะ ”
“ แน่นอนว่าเราจะให้ทุนสร้างกับหนังโรงภาพยนตร์มากกว่า ส่วนหนังของ HBOmax จะเป็นหนังทุนต่ำ แต่จะสร้างจากเนื้อหาที่มีภาคต่อจากโรงภาพยนตร์ และมันจะเป็นการเพิ่มเนื้อหาของค่าย DC ให้มีมากขึ้นกว่านี้ ”
ในเวลานี้นี้ยังมีการเปิดเผยอีกว่าทางค่าย DC ก็จะกำลังพัฒนาซีรีส์ภาคแยกออกจากหนังโรงเพื่อออกฉายทาง HBOmax ซึ่งเรื่องแรกคือ ทีวีซีรีส์ Peacemaker ที่จะเป็นภาคแยกจากภาพยนตร์ The Suicide Squad 2 ที่จะออกฉายภาคใหม่ในปี 2021
ทั้งนี้หลายฝ่ายต่างเชื่อกันว่า การที่ DC และ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส จำเป็นต้องขยับตัวให้มากที่สุดอันเนื่องมาจาก ค่าย Marvel ที่กำลังประสบความสำเร็จกับซีรีส์อย่าง WandaVision และความพิเศษไปกว่านั้นคือ WandaVision จะกลายเป็นซีรีส์ที่เชื่อมโยงเข้ากับภาพยนตร์ใหญ่ในโรงภาพยนตร์อย่าง Doctor Strange in the Multiverse of Madness ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความเข้มข้นและแปลกใหม่มาก ๆ สำหรับวงการภาพยนตร์ จนทำให้คู่แข่งต้องเริ่มปรับตัวแล้วในเวลานี้