หลังจากที่ Underworld ใน 2 ภาคแรกประสบความสำเร็จเมื่อปี 2003 และ 2006 ได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่าคอหนังและนักวิจารณ์ แต่ทว่าในภาคที่ 3 หนังกลับเลือกที่จะเล่าเรื่องย้อนกลับไปถึงต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
Underworld : Rise of the Lycans (2009) หรือ “ สงครามโค่นพันธุ์อสูร : ปลดแอกจอมทัพอสูร ” เล่าถึงเรื่องราวของ อาณาจักรแวมไพร์ในอดีตซึ่งปกครองโดย วิคเตอร์ หัวหน้าสูงสุด ที่มีลูกสาวอย่าง ซอนยา ที่เขารักปานดวงใจ
แต่จากเหตุการณ์ประหลาดที่เขาได้กำจัดแม่หมาป่าตัวหนึ่งในปราสาทแวมไพร์ของเขา ซึ่งแม่หมาป่าตัวนั้นได้คลอดมนุษย์ชายที่มีความสามารถพิเศษเป็นได้ทั้งมนุษย์และหมาป่า และเหล่าแวมไพร์ผู้ไม่เคยเห็นวิวัฒนาการของหมาป่า ซึ่งเป็นสัตว์ดุร้ายและเป็นศัตรูอันดับ 1 ของพวกเขา
แต่กลับกลายเป็นว่าหมาป่าตัวนี้ได้ให้กำเนิดมนุษย์ที่ยังคงมีเชื้อสายของหมาป่าอยู่ นั่นจึงทำให้วิคเตอร์ตัดสินใจไม่ฆ่าเด็กชายคนนี้และจะเลี้ยงไว้เยี่ยงทาส
เมื่อเด็กชายคนนี้ที่ชื่อว่า ลูเซียน ได้เติบโตขึ้นและถูกบังคับให้ขยายเผ่าพันธุ์หมาป่าด้วยการกัดมนุษย์ที่ถูกจับมาไม่ให้ตาย ซึ่งเหล่าหมาป่าได้กลายเป็นทาสให้กับพวกแวมไพร์มาอย่างยาวนาน
แต่ดูเหมือนว่า ซอนยา ลูกสาวของหัวหน้าแวมไพร์ กลับตกหลุมรักในตัวลูเซียน และความรักของทั้งคู่ทำให้วิคเตอร์ ผู้เป็นพ่อ จำเป็นที่จะต้องหาทางกำจัดเรื่องเหล่านี้ และจากการคิดไม่ซื่อของวิคเตอร์ทำให้เหล่ามนุษย์หมาป่าตัดสินใจหาทางปลดแอกและก่อสงครามขึ้นมาเพื่ออิสรภาพในที่สุด
สำหรับคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Underworld : Rise of the Lycans ในแง่บวก ถึงแม้จะไม่ใช่หนังภาคต่อและเป็นหนังที่ย้อนกลับไปในอดีต แต่หนังก็ยังคงมีฉากที่เป็นเอกลักษณ์ของภาพยนตร์เรื่อง Underworld ด้วยความมืดดำและฉากส่วนใหญ่อยู่ในช่วงกลางคืน รวมไปถึงเนื้อหาที่ได้เข้าใจว่า ทำไมมนุษย์หมาป่าต้องเป็นศัตรูตลอดกาลกับแวมไพร์
ในแง่ลบ ดูเหมือนว่าการสร้างหนังย้อนกลับมาในครั้งนี้อันที่จริงแล้ว มันจะมีบางฉากที่เกี่ยวข้องกับภาคหนึ่งแต่กลับกลายเป็นว่า ฉากเหล่านั้นกลับไม่ค่อยสอดคล้องกันมากนัก
