MGM พร้อมขายบริษัทอีกครั้ง จูงใจด้วยลิขสิทธิ์หนังกว่าสี่พันเรื่อง

353

บริษัท

อีกหนึ่งค่ายหนังยักษ์ใหญ่ที่กำลังประสบปัญหาการเงินอย่างรุนแรงในเวลานี้อย่าง MGM หรือที่แฟนหนังจำกันได้ดีถึงค่ายภาพยนตร์ที่มีสิงโตร้องคำรามอยู่ตรงกลางจอก่อนที่หนังจะเริ่มฉาย โดย MGM ได้ผลิตภาพยนตร์คุณภาพมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตระกูลสายลับ 007 ที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ

แต่ดูเหมือนว่าทางสตูดิโอภาพยนตร์เก่าแก่แห่งนี้ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1924 ได้เตรียมขายบริษัทอีกครั้ง และกำลังเริ่มต้นขั้นตอนเจรจาการขายผ่านวาณิชธนกิจที่มีชื่อเสียง 2 แห่งคือ มอร์แกน สแตนลีย์ กับ ไลออนทรี ที่จะช่วยหาบริษัทที่มีศักยภาพพอที่จะมาซื้อกิจการต่อจากพวกเขาได้

ลูกค้าในเวลานี้ที่สนใจใน MGM คือค่ายหนังคู่แข่งหลายค่ายที่สนใจจะเข้ามาเป็นพันธมิตรทำกิจการร่วมลงทุนกับ MGM รวมไปถึงบริษัทต่าง ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อนำเงินไปซื้อกิจการของบริษัทอื่น ๆ เพื่อเน้นผลกำไรเท่านั้น

อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่  MGM พยายามขายบริษัททิ้งเพราะก่อนหน้านี้ MGM ก็เคยพยายามลองทำมาแล้วแต่ไม่ได้ราคาที่เหมาะสม และยุคที่หลายค่ายต่างตั้งบริษัททำระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ส่วนตัวและแข่งขันกันอย่างดุเดือด จึงทำให้บริษัท MGM คิดที่จะขายเนื้อหาภาพยนตร์ของพวกเขาให้กับบริษัทเหล่านี้นำไปสร้างเป็นภาคต่อ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ทำรายได้ให้กับทางบริษัทได้มากกว่าผลิตภาพยนตร์ป้อนโรงหนังเพียงอย่างเดียว เพราะหลายบริษัทต่างต้องการหนังลิขสิทธิ์จาก MGM เพื่อนำมาเป็นจุดขายให้กับผู้ชมได้รับชม

ทั้งนี้ MGM มีหนังมากมายกว่าสี่พันเรื่อง อาทิ James Bond, Rocky, The Hobbit, The Silence of the Lambs, The Terminator เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ทาง MGM เองก็เคยพยายามขายบริษัทให้กับ Apple แต่ดูเหมือนว่าข้อเสนอยังไม่น่าสนใจมากพอทำให้พวกเขาล้มเลิกไป แต่ในครั้งนี้ด้วยสภาวะโรคระบาดจากไวรัส โควิด-19 และวงการภาพยนตร์ที่เริ่มเปลี่ยนไปทำให้ MGM กลับมาทบทวนในเรื่องนี้อีกครั้ง

Previous articleJurassic Park (1993) หนังไซไฟ-ไดโนเสาร์อมตะตลอดกาล
Next article“ ไลออนส์ ” โดนโปรโตคอลโควิดเล่นงาน เฮดโค้ชพลาดคุมข้างสนาม