นก จริยา ควักเงินบินถ่ายใต้เงาตะวัน พักละครผัวเมีย

65

“นก จริยา” กลัวตน พักทำละครผัวเมีย หันทำละครแนวใหม่ แฮปปี้เคมีใหม่ “โบว์-หมาก” ลงตัว ต้องปรับคาแรกเตอร์ใหม่ให้นางเอกดึงความหวานให้ออกมามากที่สุด   ไม่อยากโดนว่า ควักทุนตัวเองไปถ่ายต่างประเทศ

ถือเป็นความท้าทายใหม่ของทั้งผู้จัดและนักแสดงเลยทีเดียว เพราะนอกจากละครเรื่อง ใต้เงาตะวัน ของผู้จัด “นก จริยา แอนโฟเน่” จะเป็นแนวใหม่ที่เจ้าตัวก็ไม่เคยทำมาก่อน เพราะแฟนๆ ละครก็จะคุ้นชินในลายเส้นของผู้จัดว่าเป็นแนวชีวิตครอบครัวเสียส่วนใหญ่ แต่เรื่องนี้มีทั้งโรแมนติก ดรามาและสืบสวนสอบสวนด้วย แถมยังต้องปรับลุคความห้าว ความเฮี้ยวของนางเอกสาว “โบว์ เมลดา สุศรี” ให้เป็นสาวหวาน เรียบร้อยอีกด้วย ซึ่งผู้จัดนกก็เผยว่าทั้งท้าทาย และตื่นเต้นกับเรื่องนี้เอามากๆ ทีเดียว 

“จริงๆ เราได้เรื่องมาเป็นโจทย์แรก จากนั้นช่องถึงพิจารณาว่าให้เป็นคู่นี้นะ ซึ่งเราเองก็มองว่าทั้งสองคนเหมาะกับตัวละครตัวนี้มากสมบูรณ์แบบ 100% และเราเองก็เปลี่ยนแนวที่เคยทำ จากที่เป็นแนวสามีภรรยา พอมาเรื่องนี้เปลี่ยนเป็นอีกแนวหนึ่ง มันก็เป็นโจทย์ใหม่ของเรา เรื่องนี้มันก็จะมีความยากตรงที่ว่าในความโรแมนติก ดรามา และสืบสวนสอบสวนมันจะบาลานซ์กันไปยังไง มันต้องเปลี่ยนโจทย์บ้าง ถ้าอยู่กับโจทย์เดิมตลอดเวลา มันจะตัน ตัวเองและไม่สนุก การที่ได้เจอโจทย์ใหม่มันทำให้มีความรู้สึกตื่นเต้น ตื่นตัว 

ถามว่าการทำให้โบว์เป็นผู้หญิงหวานยากไหม ก็ต้องปรับตั้งแต่เสียงเลย (หัวเราะ) เราเห็นอยู่แล้วว่าน้องเป็นคนที่เฮี้ยวมาก เป็นคนโผงผาง ซึ่งผู้กำกับก็ต้องไปปรับให้เขามีคาแรกเตอร์ที่วางไว้ให้มากที่สุด เรียกว่าต้องขุดความเป็นผู้หญิงในตัวโบว์ขึ้นมา เพราะปกติโบว์จะเป็นคนที่เล่นอะไรก็แมนมาก ซึ่งพอเขาหาคาแรกเตอร์เจอแล้วเขาก็เข้าใจ ส่วนหมากจะเห็นได้ว่าหมากค่อนข้างปลดอะไรบางอย่าง เพราะตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่ไม่มีกรอบ จริงๆ หมากทำได้ดีในทุกบทของเขาอยู่แล้ว ผู้กำกับก็ให้อิสระกับนักแสดง” 

 ลงทุนใช้งบตัวเอง เพื่อให้ตรงกับบทประพันธ์ 

“ครั้งแรกที่คุยกับช่อง ช่องก็ถามว่าเราสามารถถ่ายที่เมืองไทยได้ใช่ไหม ตอนนั้นก็มั่นใจว่าถ่ายเมืองไทยได้ แต่พอทำบทแล้ว ดูจากบรรยากาศของเรื่อง มันต้องไป คือตามบทละครเดิมมี 3 ประเทศ ที่สองนักแสดงนำต้องไปตามหาความลับของพ่อ แต่ด้วยโควิดทำให้การเดินทางหรือการไปถ่ายที่ต่างประเทศเป็นเรื่องลำบาก แต่พอสถานการณ์มันเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับบรรยากาศบางอย่างที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้  

และถ้าต้องมานั่งทำ cg แล้วออกมาไม่เหมือนจริงก็จะโดนว่า จึงตัดสินใจร่วมกันว่าเราไปกันดีกว่า ที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน เพราะมันอยู่ในภาวะที่ถึงจะคลายล็อกดาวน์แล้ว แต่การไปมันไม่ง่าย เราต้องดูแลตัวเองอย่างมาก รวมถึงดูแลทีมให้ปลอดภัย แต่กลับมาก็ติดโควิดกันทั้งกองเลย (หัวเราะ) แต่สถานการณ์ในตอนนั้นคือเชื้อมันอ่อนมากแล้ว 

 บอก “โบว์” และ “หมาก ปริญ สุภารัตน์” เป็นเคมีลงตัว 

“ดีใจ เพราะไม่เคยเห็นคู่นี้ทำงานด้วยกัน และได้มาลงตัวในละครของเรา ความสดใหม่ของเคมี ทำให้ทั้งสองคนมีภาพน่ารักเกิดขึ้น พอเขาสนุกกับทีมและบทด้วย จึงทำให้พลังงานเคมีมันดี ทุกคนทำเต็มที่กันในบทบาทของตัวเอง ในความเป็นมืออาชีพ พอบทถูกใส่มือใครไปแล้ว มันจะเกิดความผสมกลมกลืน ยิ่งถ้าบรรยากาศในการทำงานดี ทุกคนสนิทกัน มันจะทำให้เสน่ห์มา พลังงานมา คู่นี้เล่นกับใครก็น่ารัก และพอได้เจอกันเสน่ห์ของทั้งคู่ มันทำให้ตัวละครคู่นี้มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฉากรักหรือตีกัน 

ถามว่าทั้งคู่เขามีหวานใจตัวจริงกันอยู่แล้ว มีผลอะไรไหม เราว่าไม่มีผลในภาพละคร สำหรับสายตาเราไม่ขัด เพราะทุกคนมาเล่นแบบไม่มีลิมิตว่าเล่นแบบนั้นไม่ได้นะ เล่นแบบนี้ไม่ได้นะ อีกอย่างเรานำเสนอในจุดที่พอดีๆ อยู่แล้ว ทำให้น้องไม่ต้องมีลิมิตตัวเอง และเราก็นำเสนอได้อย่างเต็มที่ คนดูยุคนี้รับได้นะคะ ถ้านักแสดงเขาทำเต็มที่ของเขา พี่เชื่อว่าคนดูแยกแยะได้ ผู้ชมเดี๋ยวนี้ทันสมัย เขาพิจารณาได้ว่าอันนี้ชีวิตจริง อันนี้คือละคร” 

 

Previous articleดูไฮไลท์บอล (ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก) เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 แอสตัน วิลล่า
Next article“นุ่น สุทธิภา” เคลียร์ใจ หลังถูกโยงเหตุ นิกกี้เลิกก้อย