มาตามนัดสำหรับผู้ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมรวมพลคนไม่มีจะกินตีหม้อไล่เผด็จการ ที่กลุ่มราษฎรนัดระดมพล ทางตำรวจได้เตรียมชุดควบคุมฝูงชนประมาณ 7 กองร้อย พร้อมกระบองเข้าประจำจุดในพื้นที่ รวมทั้งการเตรียมรดน้ำอุปกรณ์ต่างๆ เวลา 17.00 น. ตำรวจประกาศออกเครื่องกระจายเสียงขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์ค
เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พรก. ฉุกเฉินและ พรบ. โรคติดต่อในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid 19 และไม่อนุญาตให้ชุมนุมทำให้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ชุมนุมพร้อมตะโกนแสดงความไม่พอใจออกมา ต่อมา น.ส ปนัสยา หรือ รุ้ง ได้ปราศรัยว่า วันนี้มีผู้ชุมนุมถูกจับ แค่ชูป้ายผิดอะไร เพื่อนเราถูกจับ 10 คน เราจะไม่ปล่อยให้ตำรวจมีมาตรฐานเช่นนี้ ไม่ยอมให้ตำรวจคุมตัวมั่วซั่ว และถูกจับอีกแม้แต่คนเดียว
จึงนำกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมายังแยกปทุมวันและหน้าหอศิลป์ พร้อมจัดเวทีปราศรัยสลับกับเสียงเคาะหม้อเคาะกระทะหลังจากเดินต่อไปยังสน. ปทุมวัน เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวชุมนุมที่ถูกจับข้อหาพ่นสเปรย์ โดยกำหนดเวลาให้ตำรวจปล่อยตัวบุคคลเหล่านั้นภายในเวลา 20.30 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ในเวลาประมาณ 20.00 น.และได้มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 3 ครั้งบริเวณหน้าสน. ปทุมวันทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่น เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บด้วย เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจที่เข้าควบคุมฝูงชนกับผู้ชุมนุม จนต้องใช้แก๊สน้ำตาขวางใส่ จนฝ่ายการ์ดเข้ามาเจรจากับตำรวจส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลาย