นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเกี่ยวกับการใช้ ม.112 คือกฎหมายคุ้มครองสิทธิและชื่อเสียงของพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ใช้จำกัดสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลสนับสนุนการแสดงออกที่สร้างสรรค์ ไม่เหยียดหยามผู้อื่น
จากกรณีที่โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCH) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ ม.112 ต่อผู้ชุมนุมในไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศจึงได้ชี้แจงว่า กฎหมาย มาตรา 112 มีเพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิและชื่อเสียงของพระมหากษัตริย์ พระราชินี มกุฎราชกุมาร หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในลักษณะเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทสำหรับพลเมืองไทยทุกคน ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน การใช้เสรีภาพทางวิชาการ หรือการถกเถียงเกี่ยวกับระบอบกษัตริย์ในฐานะสถาบัน ผู้ที่ถูกดำเนินคดีก็เป็นไปตามกระบวนกฎหมายอาญาในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งในกรณีจำนวนมากก็จะได้รับพระราชทาน ในกรณีที่ตั้งข้อหาผู้ประท้วงวัย 16 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 นั้น เยาวชนเหล่านั้นจะถูกนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลเยาวชน และศาลได้ปฏิเสธคำขอให้มีการคุมขัง พร้อมกับอนุญาตให้ประกันตัวแบบมีเงื่อนไข และในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ประท้วงไม่ได้ถูกจับกุมเพราะใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ แต่ผู้ที่ถูกจับกุมได้ละเมิดกฎหมายอื่นๆ ของไทยซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว
นายอนุชายังกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยมิได้ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก ตราบในที่การชุมนุมดำเนินการด้วยความสงบ บนพื้นฐานสำคัญในระบอบประชาธิปไตย การใช้สิทธิและเสรีภาพต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพของผู้อื่นด้วย ไม่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ
