5 Indicator หุ้นที่เหมาะกับช่วงตลาดขาลง รวมไว้ที่เดียว

6

ในช่วงตลาดหุ้นขาลง นักลงทุนมักจะเผชิญกับความท้าทายในการตัดสินใจซื้อขาย การใช้ Indicator หุ้นที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดได้แม่นยำมากขึ้น และทำกำไรได้แม้ในภาวะที่ตลาดผันผวน วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 Indicator หุ้น ที่เหมาะสำหรับการลงทุนในช่วงตลาดขาลง

Indicator หุ้น

1. Relative Strength Index (RSI)

RSI เป็นหนึ่งใน Indicator หุ้น ยอดนิยมที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคา และบ่งชี้ว่าหุ้นอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold) หรือไม่

  • ค่า RSI อยู่ระหว่าง 0 ถึง 100
  • RSI มากกว่า 70 บ่งชี้ว่าหุ้นอาจถูกซื้อมากเกินไป และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง
  • RSI ต่ำกว่า 30 บ่งชี้ว่าหุ้นอาจถูกขายมากเกินไป และมีโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัว

ในช่วงตลาดขาลง การใช้ RSI จะช่วยให้คุณระบุจุดที่ราคาหุ้นอาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะเมื่อ RSI ลงมาต่ำกว่า 30 และเริ่มปรับตัวขึ้น

2. Moving Average Convergence Divergence (MACD)

MACD เป็น Indicator หุ้นที่ใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น เพื่อบ่งชี้แนวโน้มและจังหวะการเปลี่ยนแปลงของราคา

  • MACD ประกอบด้วยเส้น MACD และเส้น Signal
  • เมื่อเส้น MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal จะเป็นสัญญาณซื้อ
  • เมื่อเส้น MACD ตัดลงใต้เส้น Signal จะเป็นสัญญาณขาย

ในช่วงตลาดขาลง MACD จะช่วยให้คุณระบุจุดที่แนวโน้มขาลงอาจจะเริ่มชะลอตัวหรือกลับตัว โดยสังเกตการตัดกันของเส้น MACD และ Signal

3. Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็น indicator ที่แสดงความผันผวนของราคาหุ้น ประกอบด้วยเส้นกลางซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และเส้นบนล่างที่แสดงช่วงความผันผวน

  • เมื่อราคาหุ้นเคลื่อนที่ใกล้หรือทะลุเส้นล่าง อาจเป็นสัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไปและมีโอกาสฟื้นตัว
  • เมื่อราคาหุ้นเคลื่อนที่ใกล้หรือทะลุเส้นบน อาจเป็นสัญญาณว่าราคาถูกซื้อมากเกินไปและมีโอกาสปรับตัวลง

ในช่วงตลาดขาลง Bollinger Bands จะช่วยให้คุณระบุจุดที่ราคาหุ้นอาจจะเริ่มฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะเมื่อราคาทะลุเส้นล่างและเริ่มปรับตัวกลับเข้ามาในแถบ

4. On-Balance Volume (OBV)

OBV เป็น Indicator หุ้นที่ใช้วัดแรงซื้อขายในตลาด โดยรวมปริมาณการซื้อขายเข้ากับทิศทางของราคา

  • หาก OBV เพิ่มขึ้นในขณะที่ราคาลดลง อาจเป็นสัญญาณว่ามีแรงซื้อแฝงอยู่ และราคาอาจจะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้
  • หาก OBV ลดลงพร้อมกับราคา แสดงว่าแนวโน้มขาลงยังคงแข็งแกร่ง

ในช่วงตลาดขาลง OBV จะช่วยให้คุณระบุจุดที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อ OBV เริ่มเพิ่มขึ้นในขณะที่ราคายังคงลดลง

5. Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่ใช้ระบุระดับแนวรับแนวต้านที่สำคัญ โดยอ้างอิงจากทฤษฎีคณิตศาสตร์ของ Fibonacci

  • ระดับ Fibonacci ที่สำคัญได้แก่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8% และ 78.6%
  • ในช่วงตลาดขาลง ระดับเหล่านี้มักจะเป็นจุดที่ราคาหุ้นอาจจะเกิดการฟื้นตัวชั่วคราว

การใช้ Fibonacci Retracement ในช่วงตลาดขาลงจะช่วยให้คุณระบุจุดที่ราคาหุ้นอาจจะเกิดการฟื้นตัว หรือใช้เป็นจุดในการตั้งเป้าหมายกำไรสำหรับการเทรดระยะสั้น

การใช้ Indicator หุ้นเหล่านี้ร่วมกันจะช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นในการวิเคราะห์ตลาดหุ้นช่วงขาลง อย่างไรก็ตาม ควรระลึกไว้เสมอว่าไม่มี Indicator หุ้น ใดที่สมบูรณ์แบบ การใช้ indicator ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุนได้แม้ในช่วงตลาดผันผวน

Previous articleแจกพิกัด 5 โรงพยาบาลจิตเวชอยู่ใกล้ฉัน ที่อุ่นใจได้
Next articleเผยบทความสุขภาพ เคล็ดลับการดูแลร่างกายและจิตใจ ที่ทำตามได้