บุหรี่ถือว่าเป็นสารเสพติดที่ให้โทษต่อร่างกายทั้งผู้สูบเอง และบุคคลที่ได้สูดดมควันบุหรี่ก็ได้รับอันตรายด้วยเช่นกัน บุหรี่ประกอบด้วยสารนิโคติน มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง และยังทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลงอีกด้วย สารที่อยู่ในบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นไนโตรเจนออกไซด์ ไฮโดนเจนไซยาไนด์ จะเป็นตัวทำลายเยื่อบุหลอดลม ถึงแม้ว่าผู้สูบเองก็ทราบถึงอันตรายที่จะได้รับ แต่ก็ไม่สามารถหยุดสูบได้ จึงได้มีการคิดค้นสิ่งที่จะนำมาทดแทนบุหรี่นั้นก็คือ “บุหรี่ไฟฟ้า”
บุหรี่ไฟฟ้าจัดเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ใช้แบตเตอรี่ในการทำงานสร้างความร้อนและไอน้ำซึ่งประกอบด้วยสารต่างๆ เช่น สารนิโคติน โพรไพลีนไกลคอล กลีเซอรี่ สาารที่ให้กลิ่นและน้ำ บุหรี่ไฟฟ้าใช้หลัการระเหยของสารนิโคตินเหลวด้วยความร้อนจากไฟฟ้า ไม่มีควันที่เกิดจาการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติ จึงไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดิน (Tar) และคาร์บอนไดออกไซด์ อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้สูบและบุคคลรอบข้างน้อยกว่าการเผาไหม้ใบยาสูบจากบุหรี่ปกติ
สารที่พบในน้ำยา (E-Liquid/E-Juice) ประกอบด้วย
1. สารนิโคติน (Nicotine) เป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ระดับนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีด้วยการ 3 ลักษณะซึ่งสามารถดูได้จากเปอร์เซ็นตื มิลลิกรัม และระดับความเข็มข้น
2. สารโพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol) เป็นสารสังเคราะห์ที่นำมาใช้เพื่อให้เกิดไอหรือหมอกควัน ที่เรามักพบได้ตามเวทีการแสดง
3. สารกลีเซอรีน (Glycerine) สารที่มีรสชาติหวาน เป็นสารที่องค์การอาหารและยาถือว่าปลอดภัยในการใช้ทำอาหารและยา
4. สารแต่งกลิ่น (Flavoring) เป็นสารที่ใช้อุตสาหกรรม สามารถรับประทานได้
เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีส่วนประกอบของสารกลีเซอรี่น และสารต่างกลิ่น ที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา แต่เมื่อสารเหล่านั้นเปลี่ยนรูปเป็นไอแล้วถูกสูบเข้าสู่ร่างกาย ทางองค์การอาหารและยากลับไม่สามารถรับรองว่าปลอดภัยต่อร่างกายได้ จึงจำเป็นต้องรอผลการศึกษาต่อไป
บุหรี่ไฟฟ้า สามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบคือ
1. แบบCigalike เป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่มีลักษณะคล้ายกับบุหรี่ทั่วๆไป แต่จะมีตัวที่ทำให้เกิดไอและความร้อนเพิ่มขึ้นมา
2. แบบ eGos มีทั้งที่มีลักษณะเหมือนบุหรี่ทั่วไปแต่ขนาดใหญ่กว่า และรูปทรงอื่นๆ มีตัวถังสามารถถอดเพื่อเติม E-Liquid ได้ด้วยตนเอง
3. แบบMods มีขนาดใหญ่กว่า eGos สามารถปรับแรงดันไฟฟ้า ขนาดของตัวทำให้เกิดไอและความร้อน ขนาด ปริมาณของE-Liquid ได้ตามต้องการ
การที่บุหรี่ไฟฟ้าไม่ผ่านการเผาไหม้จึงถือว่าเป็นข้อดี ไม่ควันกระจายสู่บุคคลรอบข้าง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น ไม่รู้สึกว่าถูกหักดิบ และไม่ส่งผลต่อสภาพจิต ตั้งแต่เริ่มซื้อบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีราคาตั้งหลักพันบาทจนถึงหมื่นบาทเลยที่เดียว เมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็จำเป็นต้องเสียค่าบำรุงรักษา เพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้าใช้ได้นานและมีประสิทธิภาพดีดังเดิม สำหรับผู้ที่เริ่มหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจจะรู้สึกไม่คุ้นชิน และเกิดอาการแสบคอได้ในช่วง 5-17 วัน หลังจากนั้นก็จะคุ้นชินคะ
ปัจจุบันคนหันมาสนใจใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นเพราะมีความเชื่อที่ว่าจะส่งผลเสียต่อร่างกายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไป แต่เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อไม่นาน จึงทำให้ยังไม่สามารถระบุหรือชี้ได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะให้โทษอะไรต่อผู้สูบบ้างในระยะยาวและจะรุนแรงน้อยกว่าบุหรี่ปกติหรือไม่ จึงจำเป็นต้องรอผลการวิจัยต่อไป
อย่างไรก็ดีบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงส่งผลต่อร่างกายอยู่ดี ด้วยเหตุนี้หากสามารถเลิกบุหรี่ได้ก็จะเป็นการดีที่สุดนะคะ
ข้อมูลอ้างอิง
รู้ก่อนใช้บุหรี่ไฟฟ้า: pobpad.com
เจาะลึกเกี่ยวกับ บุหรี่ไฟฟ้า พร้อมข้อดี-ข้อเสียที่ควรรู้: honestdocs