เรโทรกับวินเทจ สองสไตล์ต่างกันตรงไหน

3347

อาจจะเคยได้ยินหรืออ่านพบตามนิตยสารเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านว่าบ้านหลังนี้ตกแต่งสไตล์วินเทจ ห้องนั่งเล่นได้แรงบันดาลใจมาจากสมัยยุคเรโทร แล้วทั้งวินเทจและเรโทรมันคืออะไร เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอันไหนเป็นเรโทร อันไหนเป็นวินเทจ จะได้เข้าใจไม่ตกยุคตกสมัยกัน

เรโทรกับวินเทจ

วินเทจคือการออกแบบต่างๆ ศิลปกรรมต่างๆ ที่เกิดในช่วงยุคเก่าตั้งแต่ 20-100 ปีที่แล้ว แต่ถ้าเก่าเกินกว่า 100 ปีขึ้นไปมักจะเรียกว่าเป็นของโบราณ (antique)  ส่วน โรโทรคือการออกแบบสิ่งต่างๆ ที่เกิดในช่วงยุคปี ค.ศ. 1950-1980 ทั้งวินเทจและโรโทรจึงเป็นรูปแบบการออกแบบของต่างๆ ทั้งศิลปะ การแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม ดนตรี เป็นต้น ที่เกิดในช่วงที่ต่างยุคต่างสมัยกันเท่านั้นเองคะ แต่ปัจจุบันเราจะพบเห็นรูปแบบสิ่งของที่นำกลับมาทำใหม่ในรูปแบบของทั้งสองสไตล์กันมากขึ้น เพราะความมีเสนห์ของงานศิลปะ มีสวยงามของวันวานที่ไม่ได้ดูล้าสมัยแม้จะมาอยู่ในยุคปัจจุบันแต่ยังคงความคลาสสิคความเป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเองได้อยู่ มาดูกันคะว่า อะไรหรือสิ่งของใดที่สามารถจะทำให้เราแยกทั้ง 2 แบบ ออกจากกันได้ชัดเจน

เรโทรกับวินเทจ

ส่วนใหญ่เราจะพบการคำว่า “สไตล์วินเทจ” และ “สไตล์เรโทร” ในเรื่องการตกแต่งภายในอาคารบ้านเรือน สถานที่ทำงาน และอื่นๆ การตกแต่งสไตล์วินเทจนั้นเมื่อมองแล้วจะดูเหมือนหญิงสาวที่แต่งองค์ทรงเครื่อง ดูอ่อนหวาน อ่อนช้อย เฟอร์นิเจอร์มักจะไม่เป็นเหลี่ยม จะเป็นเส้นโค้งมน มีการเพิ่มความอ่อนช้อยด้วยการแกะสลักตามแบบศิลปกรรมสไตล์ยุโรป เช่น ใบไม้ ดอกไม้ ผลไม้ เถาวัลย์ นิยมแกะสลักกันในเกือบทุกส่วนของเฟอร์นิเจอร์ แม้แต่กรอบรูปก็ยังมีแกะสลัก หมอนอิงหรือผ้าบุโชฟา ผ้าม่านมักแสดงออกถึงฐานะของเจ้าของบ้าน นิยมใช้สีทอง สีแดง ปักหรือเดินเส้นด้ายสีทอง แต่ในยุคต่อมาก็อาจมีการลดทอนสั่งที่ดูว่ามันมีมากเกินลงไปบ้าง เช่น ไม่มีการแกะสลัก ลวดลวยต่างๆบนวอลล์เปเปอร์ ผ้า ก็จะมีขนาดเล็กลง สีที่ใช้ก็จะเป็นสีที่อ่อนลง ไม่เข้ม ทำให้ดูแล้วสบายตา เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจนั้นเป็นยุคที่เทคโนโลยียังได้รับการพัฒนาน้อยมากหรือยังไม่พัฒนาเลย เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น

ส่วนเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้านสไตล์เรโทรก็จะดูทันสมัยมากขึ้นเพราะเกิดในยุคสมัยที่ใหม่กว่าวินเทจนั้นเอง การออกแบบก็จะเปลี่ยนไปจากเดิมทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับอิทธิพลหรือสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม ในแต่ละยุคที่มีผลต่อการออกแบบสิ่งต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตจริงๆ เริ่มเป็นรูปแบบโมเดิร์นแล้ว ไม่มีการแกะสลักใบไม้ดอกไม้ รูปปั้นต่างๆก็ไม่นิยม เน้นการใช้งาน เรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ก็จะเป็นแบบรูปทรงเรขาคณิต รูปทรงสีเหลี่ยมบ้าง ทรงกระบอกบ้าง เน้นความเป็นตัวตนของวัสดุที่นำามาใช้งาน เช่น ถ้าเป็นไม้ก็จะโชว์เนื้อไม้ชัดเจน ถ้าเป็นเหล็กก็จะไม่นิยมทาสีปกปิด นอกจากนี้การผลิตวัสดุใหม่ขึ้นมาได้อย่าง พลาสติก อะคริลิก ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้ดูล้ำสมัยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้สตูลตัวสูงที่ไว้นั่งกับเคาร์เตอร์บาร์สูงๆ  เก้าอี้นั่งพลาสติกสีจัดจ้าน เป็นต้น โทนสีที่ใช้ก็จะเน้นการตัดกันของโทนสี ไม่ว่าจะเป็น เหลือง ดำ แดง เขียวน้ำเงิน หรืออาจจะใช้สีของวัสดุธรรมชาติเลยก็ได้ ลวดลายก็ไม่นำธรรมชาติ ดอกไม้ ต้นไม้มาใช้ แต่จะใช้รูปทรงง่ายๆ ลายกราฟฟิคมาสร้างเป็นรูปแบบคล้องกันไปมา มักพบในวอลล์เปเปอร์ อีกทั้งผ้าที่ใช้ก็จะสีจัด ทั้งผ้าบุโซฟา ปลอกหมอน แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังเน้นสีสรรด้วยเช่นกัน

อาจจะสรุปได้ว่าทั้งวินเทจและเรโทรก็คือศิลปะการออกแบบที่เกิดขึ้นในยุคสมัยที่แตกต่างกัน ซึ่งในแต่ละยุคนั้นสภาพแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ ค่านิยม และอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อศิลปะการออกแบบหรือสร้างข้อจำกัดในการออกแบบในยุคดังกล่าว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสไตล์ไหนก็ล้วนแล้วแต่ถูกกลับมาใช้ในปัจจุบันเหมือนกันต่างที่ความมชอบส่วนบุคคลที่จะเลือกแบบไหนหรืออาจจะนำมาประยุกต์ให้ดูเข้ากันก็ยังได้นะคะ จินตนาการช่วยทำให้โลกนี้แตกต่างคะ

ข้อมูลอ้างอิง
Mod X Mobler ดีไซน์เนอร์เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นวินเทจ : modxretro.com
What is vintage furniture? : furniture.about.com
เรียบๆ เท่ๆ แบบ loft style : cotto.co.th
ย้อนรอยวันวานสไตล์เรโทร: home.sanook.com

Previous articleอาหารเสริมลดน้ำหนัก ลดความอ้วน เลือกอย่างไรดี
Next articleมะเร็งต่อมลูกหมาก ภัยร้ายของลูกผู้ชาย