การดูแล พรมปูพื้น ให้สะอาดอยู่เสมอ

447

คนจำนวนไม่น้อยที่มักนิยมใช้ พรมปูพื้น เป็นของตกแต่งบ้าน สร้างความสวยงามและดูสร้างลูกเล่นให้กับพื้นบ้านสีพื้นๆให้แลดูสดใสยิ่งขึ้น พรมมีตั้งแต่ราคาถูกๆจนถึงราคาเป็นแสนๆเลยนะคะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่มี

พรมปูพื้น

 

พรมปูพื้น มีด้วยกันหลายชนิด ซึ่งแตกต่างกันตามประเภทของเส้นใยที่นำมาผลิตนั่นเองคะ จึงทำให้พรมแต่ละชนิดต่างกัน มีข้อดีข้อเสียต่างกันด้วยคะ อาทิ

1. พรมไนลอน จะมีความทนทานมากที่สุด กันน้ำ กันรอยขีดขวดได้ดี กันเชื้อราและสารเคมีต่างๆได้ เมื่อโดนแสงแดดสีจะซีด มีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี ดูแลรักษาง่าย ราคาไม่แพงจนเกินเอื้อม แต่จะแพงกว่าพรมที่ผลิตจากโพลีโพรไพลีน และ โพลีเอสเตอร์

2. พรมโพลีเอทิลีนหรือพรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตจากฝาขวดพลาสติกรีไซเคิล พรมจะมีสีสดใส มีเท็กเจอร์ที่หลากหลาย ป้องกันคราบได้ดีกว่าไนลอน ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ แต่สัมผัสที่ได้จะไม่นุ่มสบายสักเท่าไหร่นักเนื่องจากผลิตมาจากพลาสติก

3. พรมขนสัตว์ ที่มีราคาสูงที่สุดเพราะผลิตจากธรรมชาติแท้ๆ มีความหรูหรา หนานุ่ม ป้องกันคราบและรอยเปื้อนได้ดี สัมผัสนุ่มสบาย ค่อนข้างทนต่อการใช้งาน แต่อาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้และเมื่อใช้ไปสักระยะจะกลายเป็นแหล่งอาศัยของแมลงตัวเล็กๆ จึงทำเป็นต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ ทำความสะอาดยาก สีซีดจากการโดดแดดและสารเคมีที่ใช้ทำความสะอาด

4. พรมอะคริลิก เป็นพรมที่ทำเลียนแบบพรมขนสัตว์ มีลักษณะสัมผัสคล้ายกับพรมขนสัตว์มากที่สุด แต่ราคาจะถูกกว่า ไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ กันความชื้น คราบสกปรก ไม่แข็งแรง และไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก

การทำความสะอาดพรมแบบเบื้องต้นก็คือการดูดฝุ่น เนื่องจากพรมปูพื้นมีเทกเจอร์ที่เป็นขน จะมีร่องสะสมฝุ่นได้ง่ายและได้มากด้วย การดูดฝุ่นจึงเป็นวิธีทำความสะอาดพรมปูพื้นเบื้องต้น ถึงคุณจะมองไม่เห็นฝุ่นตามพรมแต่ขอให้เชื่อเถอะคะว่าเมื่อคุณดูดฝุ่นที่พรมแล้วจะตลึงกับปริมาณฝุ่นที่ดูดขึ้นมาได้ ยิ่งถ้านานๆทำทีก็ยิ่งเยอะ หรือหากพรมใครมีกลิ่นไม่พึงประสงค์สามารถใช้เบกกิ้งโซดาหรือผงฟู โรยให้ทั่วพรมแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 30-60 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก

หากใครต้องการซักพรมก็สามารถทำได้นะคะ  ถ้าเป็นพรมขนาดเล็ก แบบว่าราคาไม่แพงนัก สามารถใส่เครื่องซักผ้าได้นะคะ  ไม่ควรซักรวมกับผ้าอื่นๆ ควรเลือกโปรแกรมซักแบบถนอมผ้า เลือกซักด้วยน้ำอุ่นไม่เกิน 40 องศาเพราะหากน้ำร้อนมากเกินไปจะทำให้พรมสีซีดได้ และควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าแบบน้ำจะได้ไม่ทิ้งคราบขาวๆไว้บนพรม หลังจากนั้นก็นำไปตากแดดให้แห้งสนิทก่อนจะนำกลับมาใช้คะ แต่หากพรมของคุณมีขนาดใหญ่ก็ใช่ว่าจะซักเองไม่ได้ แค่เหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเองคะ การซักพรมด้วยน้ำยาซักพรมผสมกับน้ำ แล้วใช้แปรงขนนุ่ม แปรงเบาๆให้ทั่วพรม แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วนำไปผึ่งแดด หรือาจจะเลือกใช้น้ำยาซักแห้ง โดยโรยน้ำยาให้ทั่วบริเวณที่สกปรก มีคราบ แล้วใช้แปรงปัดเบาๆบริเวณนั้น จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกจนหมด แต่วิธีนี้ยังอาจจะยังทิ้งคราบไว้บ้าง คงต้องทำใจ

แต่หากใครไม่มีเวลา หรือพรมมีราคาค่อนข้างแพงแล้วหละก็ แนะนำให้ใช้บริการร้านรับซักพรมจะดีกว่าคะ เพราะพวกเขามีความชำนาญ และมีเครื่องมือสำหรับซักพรม อยากให้พรมที่บ้านสวย มีอายุการใช้งานยืนยาว ก็ต้องดูแลเอาใจใสสักหน่อยคะ

ข้อมูลอ้างอิง

เคล็ดลับการทำความสะอาด และการดูแลพรมปูพื้นให้ใช้ได้อีกนาน: thaiticketmajor.com
จัดคราบบนพรมให้หายวับด้วยเครื่องซักผ้า: breeze.co.th
วิธีซักพรม วิธีทำความสะอาดพรม: thaicleaningtips.com
ารู้จักพรมปูพื้นแต่ละชนิด ก่อนใช้แต่งบ้านกันเถอะ: home.kapook.com

Previous articleอาหารแคลอรี่ต่ำ ทำได้ไม่ยาก
Next articleประโยชน์ของ ยาทาเล็บ มีอะไรบ้าง