การเลือกผ้าปูที่นอน แบบไหนให้ดีและคุ้มราคา

152

ยุคสมัยนี้ใครก็นอนเตียงกันทั้งนั้น คงจะมีเพียงส่วนน้อยที่ยังนอนกับพื้น เตียงมีให้เลือกหลากหลายดีไซด์ มีตั้งแต่ราคาหลักพันจนถึงหลักแสนกันทีเลยคะ ขนาดของเตียงมาตราฐาน คือ 3.5 ฟุต 5 ฟุต และ 6 ฟุต ผ้าปูที่นอนก็เช่นกันจะมีขนาดตามขนาดของเตียง การเลือกผ้าปูที่นอนนอกจากจะดูลวดลายที่ตนเองชอบแล้ว ยังมีข้อมูลลึกๆที่อยากจะให้ทราบก่อนที่จะตัดสินใจซื้อผ้าปูที่นอนสักผืนคะ

ผ้าปูที่นอนผ้าปูที่นอน ส่วนใหญ่ผลิตจากผ้า 3 ชนิด คือจากเส้นใยธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จากเส้นใยสังเคราะห์ 100 % เช่นไมโครไฟเบอร์ และ เส้นใยที่ผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติกับเส้นใยสังเคราะห์

ผ้าปูที่นอน ที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่นิยม ได้แก่

1. ผ้าฝ้าย จะมีลักษณะเนื้อผ้านุ่ม สามารถช่วยซึมซับ ดูดความชื้นได้ดี แต่ก็ระบายอากาศ และคายความร้อนได้ดีได้เช่นกัน สามารถซัก และรีดได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิสูง

2. ผ้าไหม เมื่อนำมาทอเป็นผื่นแล้วจะมีความอ่อนนุ่ม ลักษณะเป็นมันวาว ยืดหยุ่นได้ดีมีความเหนียวสูง ดูดซับความชื้นได้เป็นอย่างดี ทำให้ผ้าปูที่นอนดูมีราคาค่อนข้างแพง การทำความสะอาดค่อนข้างยาก น้ำหนักเบา และยับง่าย

3. ผ้าใยไผ่ มีลักษณะเนื้อผ้านุ่มนวล มีความเงางาม ลวดลายที่เกิดจากธรรมชาติของเส้นใย มีความสามารถในการดูดซับความชื้นได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันระบายอากาศได้ดี สามารถต้านทานการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย

4. ผ้าซาติน มีเนื้อผ้าที่ค่อนข้างหนาแน่น นิ่ม ลื่น เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเย็นสบาย หรือผ้าเป็นเงา มีน้ำหนักมาก ทิ้งตัวดี

นอกจากชนิดของผ้าที่นำมาทอเป็นผ้าปูที่นอนแล้ว ราคาของผ้าปูที่นอนจะถูกหรือแพงจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเส้นด้ายต่อตารางนิ้วคะ (Tread Count) ความหนาแน่นของเส้นด้ายคือจำนวนเส้นด้ายแนวนอนบวกจำนวนเส้นด้ายแนวตั้งในพื้นที่ 1 ตารางนิ้วหากมีจำนวนเส้นด้ายมากแสดงถึงความหนาแน่นของผ้าจะทำให้ราคาของผ้าปูที่นอน

ผ้าปูที่นอนส่วนใหญ่มักมีเส้นด้ายอยู่ที่ 180-300 เส้น ความหนาแน่นของเส้นด้ายนี้เป็นตัวบ่งบอกความนุ่ม ยิ่งมีมากยิ่งนุ่มมาก และราคาก็จะแพงมาก แต่อย่างไรก็ตามความหนาแน่นของเส้นด้ายไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าผ้าผืนนั้นจะมีคุณภาพที่ดี เพราะผู้ผลิตเลือกใช้เส้นด้ายที่มีคุณภาพต่ำๆ ผ้าก็จะไม่ออกมานุ่มสบายอย่างที่คาดหวังไว้

ส่วนวิธีการท่อผ้าก็สามารถทำให้ผ้ามีความแตกต่างกันทั้งๆที่ใช้เส้นด้ายชนิดเดียวกัน เกรดเดียวกันก็ตาม การทอผ้าปูที่นอนมีด้วยกัน 2 แบบคือ

1. การทอแบบลายขัด (Plain) ผ้าที่ได้จะไม่มีความเงา แต่แน่น ข้อดีก็คือจะมีความชัดเจนของลาย มีความแข็งแรงคงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เนื้อผ้าจะไม่นุ่มเท่ากับการทอแบบขึ้นเงา

2. การทอแบบขึ้นเงา (Satin/Sateen) ผ้าที่ทอแบบนี้จะมีความเงา เนื่องจากเป็นการทอที่ทำให้เส้นด้ายมีเนื้อที่ในการตกกระทบของแสงจึงเห็นว่าเนื้อผ้าขึ้นเงาผ้า การทอลักษณะนี้จะได้เนื้อผ้าที่นุ่มลื่น แต่การที่เส้นด้ายมีเนื้อที่มากขึ้นในการกระทบกับแสงจึงทำให้การทำความสะอาดซักล้าง เส้นด้ายจะสัมผัสน้ำยาซักล้าง การขัด การปั่นโดยตรงทำให้มีอายุการใช้งานที่สั้นลง

ประเภทของเส้นด้าย การทอ และความหนาแน่นของเส้นด้ายล้วนมีผลต่อลักษณะของผ้าปูที่นอน และมีผลต่อราคาผ้าปูที่นอนด้วยเช่นกันนะคะ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะเลือกผ้าปูที่นอนแบบไหน

ข้อมูลอ้างอิง

เคล็ดลับดีๆเรื่องผ้าปูที่นอนที่ถูกวิธี: thelovelyair.com
แนะนำเทคนิคการเลือกผ้าปูที่นอนที่จะทำให้คุณหลับสบาย: spotlightdaily.net

Previous articleใช้อย่างไรให้ หม้อหุงข้าว มีอายุยืนยาว
Next articleวอลเปเปอร์ สามารถแบ่งออกได้ดังนี้