ไม่นานเกินรอ สำหรับสถานการณ์ของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่พวกเขาถูกโฟกัส หลังจากที่มี โรมัน อับราโมวิช เศรษฐีบ่อน้ำมันชาวรัสเซีย เป็นเจ้าของกิจการ และแน่นอนว่าท่ามกลางสงครามที่เกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซีย ยกพลไปบุกยูเครน เพื่อยึดอธิปไตย และก่อสงครามที่รุนแรง
นั่นจึงทำให้ โรมัน ถูกจับจ้องเพราะเจ้าตัวให้การสนับสนุน ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ถึงแม้ไม่ใช่ทางตรงแต่ก็เป็นทางอ้อม นั่นจึงทำให้รัฐบาลสหรัฐอณาจักรพยายามที่จะกดดันทุกวิถีทาง หลังจากที่ โรมัน มีความเชื่อมโยงกับ “ปูติน”
หากจะมองให้เห็นภาพกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างรัฐบาลของอังกฤษ กับ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ให้นึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนรัฐบาล และเมื่อพวกเขาทำผิด แน่นอนว่าเสียงรอบข้างก็ต้องรุมล้อม และโจมตีเป็นเรื่องธรรมดา
แต่สำหรับสงครามที่รัสเซีย กับ ยูเครน แน่นอนว่านั่นคือความเสียหายระดับโลก ซึ่งไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม โรมัน อับราโมวิช ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และชัดเจนที่สุดก็คือทุกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัสเซีย ไม่ต้องการที่จะให้ โรมัน อับราโมวิช เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่อยู่ในแวดวงของยุโรป ที่พวกเขากำลังต่อต้านสงคราม
และนั่นจึงทำให้นับตั้งแต่มีสงครามระหว่างยูเครน กับ รัสเซีย เกิดขึ้น รัฐบาลอังกฤษ กดดัน โรมัน ตลอด ซึ่งคดีก่อนหน้านี้ โรมัน ก็ไม่สามารถเดินทางเข้าสู่สหราชอาณาจักรได้อยู่แล้ว เพราะว่ามีปัญหาเรื่องของวีซ่า ยิ่งมีสงครามเกิดขึ้นมา ยิ่งทำให้เจ้าตัวถูกจับตามองมากขึ้น
และนี่คือชนวนสำคัญที่พวกเขาพยายามจะต่อต้าน โรมัน มาตลอดสัมฤทธิ์ผล โดยการกดดันให้ขายสโมสรเชลซี เพราะไม่ต้องการให้ยุ่งเกี่ยว ซึ่งล่าสุด โรมัน ก็ได้สั่งให้ เรน กรุ๊ป (Raine Group) ธนาคารของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นนายหน้าเครือข่ายธุรกิจของเขา ประกาศขายสโมสร เชลซี
