ไทด์ เอกพันธ์ ตั้งข้อสังเกต ร่างกายแตงโมเหมือนถูกทำร้ายหลายจุด

43

แตงโม

ไทด์ เอกพันธ์ ได้เปิดเผยในรายการ ดราม่าวันนี้ ให้ได้ฟังเพิ่มเติมถึงสภาพศพของ แตงโม นิดา ที่ไม่ได้พูดในวันที่พบร่างน้องให้ฟังว่า

“ณ วันนี้ จนถึงวันนี้ ก็มีข้อสงสัย ตอนแรกถ้าเจอคุณหมอพรทิพย์ก็จะว่าจะถามเหมือนกัน คือมีบาดแผลอย่างที่บอกไปแล้ว และมีบางสิ่งบางอย่างบนใบหน้าของน้อง

วันนั้นไม่ได้พูดเพราะให้เกียรติทางพิสูจน์หลักฐานที่ให้เขาถ่ายอะไรต่างๆ บาดแผลบนใบหน้า แต่ไม่ได้พูดเรื่องใบหน้า ในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ เขาก็คงว่าใบหน้าน้องเกิดโดนกระทำอะไรบ้าง

คือวันนั้นได้เห็นหน้าน้อง แล้วก็มีความรู้สึกว่าธรรมชาติของศพที่จมน้ำลงไป สมมติเอาประมาณเกือบๆ 2 วันที่ขึ้นมาตอนนั้นที่พลิกหน้าน้องให้เขาถ่ายรูป

มีตาข้างนึงน่าจะเป็นข้างซ้ายที่ถลนออกมา ข้างขวาปิดบวมช้ำ ช้ำเลือดช้ำหนอง ช้ำเลย ไม่ปูดออกมา แต่โดยปกติธรรมดาโดยที่ไม่โดนอะไรตี ของแข็งกระแทกใบหน้า ตา 2 ข้างจะเท่ากัน ปูดออมาเท่ากันทั้ง 2 ข้าง

อีกอย่างคือฟันของน้อง ตอนที่อยู่ในรถตู้ด้วยกัน ผมนั่งอยู่ทางด้านขา น้องอีกคนอยู่ทางหัว แล้วเจ้าหน้าที่จะเอาเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้มหา DNA แล้วน้องก็บีบปากน้อง

แล้วก็เห็นฟันหักด้วย ฟันหลอเลย ประมาณนั้น แต่ไม่ได้พูดเพราะคิดว่าในกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ผ่าพิสูจน์น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ในวันนี้ยังไม่ได้ยินหรือเห็นคำพูดนั้นออกมาเลย เลยขอพูด”

จากนั้น อั๋น ภูวนาท พิธีกรดำเนินรายการ จึงได้สอบถามแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์  ถึงความเป็นไปได้ของคนที่จมน้ำจะมีสภาพร่างกายเป็นอย่างที่ ไทด์ เอกพันธ์ เล่ามาหรือไม่ ซึ่งแพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ เล่าว่า

“ต้องเรียนว่าไม่ได้เห็นรูปถ่ายเลยไม่อยากลงไปในเรื่องราวเหล่านี้ แต่ตอบไม่ยาก เพราะหมอนิติเวชที่เป็นคนตรวจศพ จะต้องมีรูปถ่ายและมีคำตอบเรื่องพวกนี้ว่าเอกซเรย์แล้วเป็นอย่างไร

ด้วยความที่มีเวลาไม่มาก อยากจะฝากไปถึงเรื่องบาดแผลที่ขา ในประสบการณ์ผ่าศพที่โดนใบพัดตัด แผลจะรุ่งริ่ง การเจอแผลเดียวเป็นไปได้ยาก

แต่ถ้าในเชิงวิชาการ จะรู้ได้อย่างไรว่าโดนอะไร และคุณไทด์บอกว่ามันลึกถึงกระดูก ในส่วนของทางนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวช ในต่างประเทศ ถ้าอยากรู้ว่าโลหะอะไรมาโดน

เขาจะเอากระดูกตรงส่วนที่มีรอยตัดหรือรอยแตกไปเคลือบพิเศษ และไปสแกนดูว่าเป็นโลหะชนิดใด ก็จะตอบได้ว่าเป็นโลหะของชนิดใด

ส่วนบาดแผลบริเวณใบหน้า ถ้าคุณหมอนิติเวชเขามีความอิสระนะคะ เขาควรจะตอบมาแล้ว ไม่ควรให้สังคมสงสัย และกลายเป็นประเด็นให้พูดกันต่อไปยาวมาก เรื่องใบหน้าต้องเห็นถึงจะตอบได้

แต่ถ้าเป็นร่างทั่วไปตามหลักการก็จะบวมเท่ากันทุกส่วน แต่ไม่ได้เสมอไป อาจจะไปโดนอะไรในน้ำ แต่สำคัญที่สุด ก็สังเกตว่าส่วนของศีรษะมีลักษณะเน่าค่อนข้างมาก ถ้าศพมีแผลตรงไหน ตรงนั้นจะเน่ามากกว่าที่อื่น

ถ้า 2 ข้างมันไม่เท่ากัน หมอนิติเวชก็จะไปเอกซเรย์กะโหลกแตกมั้ย มีบาดแผลอะไรมั้ย แต่ไม่ได้เห็น ได้เห็นแต่รูปทั้ง 3 รูป ใบหน้าค่อนข้างเน่าเมื่อเทียบกับลำตัว

เรื่องลิ้นจุกปากต้องบอกว่า ต้องอาศัยการประมวลหลายๆ อย่าง เพราะว่าในศพเกิดได้ 3 อย่าง 1 คือเน่า ท้องต้องอืดแก๊สในท้องมันจะดัน

อย่างที่ 2 คือ ขาดอากาศหายใจ ก็คือมีการล็อกอะไรประมาณนั้น และอย่างที่ 3 คือสภาวะชัก เพราะถ้าชักจะทำให้ลิ้นออกมาเหมือนกัน ถ้าจะตอบสิ่งเหล่านี้ได้จะต้องไปตรวจศพ ยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่ได้เห็นศพ

แห้งกับเปียก บาดแผลที่เกิดก่อนตกน้ำกับเกิดตอนที่อยู่ในน้ำ ลักษณะจะแตกต่างกัน รบกวนคุณหมอพูดเรื่องนี้ชัด ๆ อีกทีได้มั้ย

“บาดแผลที่เกิดก่อนตายกับหลังตายไม่เหมือนกัน แต่บาดแผลที่เกิดก่อนตกน้ำ กับลงไปอยู่ในน้ำแต่ยังมีชีวิตอยู่ อาจจะบอกยาก ทำยังไงจะตรวจได้ต้องดูในส่วนของแผล และไปตรวจเรือว่ามีคราบเลือดมั้ย”

Previous article“เรายังมีความหวัง” เพลงใหม่ ปู พงษ์สิทธิ์ สร้างกำลังใจให้สังคม
Next articleรวมตัว “เบญจา คีตา ความรัก” ครบรอบ 20 ปี ระลึกถึง แตงโม นิดา