ปี 2021 นับเป็นช่วงเวลาซบเซาของวงการภาพยนตร์ระดับโลกเพราะการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการถือกำเนิดของสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังดีได้ความสำเร็จของ Spider-Man: No Way Home ที่ตอนนี้โกยรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 1.386 พันล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยให้พอมีความหวังสำหรับในปี 2022 บ้าง
จากการอัปเดตรายชื่อหนังฟอร์มใหญ่ที่เตรียมลงโรงภายในปีนี้ก็นับได้ 30 เรื่องแล้วในหลากหลายรสชาติ รวมถึงบล็อคบัสเตอร์ไล่เรี่ยมาตั้งแต่ Moonfall วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามด้วย Top Gun: Maverick วันที่ 27 พฤษภาคม, Jurassic World: Dominion วันที่ 10 มิถุนายน และ Avatar 2 วันที่ 16 ธันวาคม ขณะที่ Mission: Impossible 7 หากไม่โดนเลื่อนไปกลางปีหน้า ก็คงยังอยู่ในลิสต์ให้แฟน ๆ ได้ตีตั๋วชมกันในวันที่ 30 กันยายน
ส่วนแนวซุปเปอร์ฮีโร่ก็มีออกมาหลายเรื่อง ประเดิมด้วย The Batmam มนุษย์ค้างคาวฉบับรีบู๊ทหลังปิดฉากไตรภาค Dark Knight ของ Christopher Nolan โดย Matt Reeves ผู้กำกับ บอกว่า อัศวินรัตติกาลเวอร์ชั่นใหม่ที่สวมบทบาทโดย Robert Pattinson จะเป็น Bruce Wayne ในคราบ Kurt Cobain ส่วนตัวละครฝ่ายร้ายที่เข้ามามีบทบาทคือ Catwoman กับ Riddler หนังมีกำหนดฉายวันที่ 4 มีนาคม
ตามมาด้วย Doctor Strange in the Multiverse of Madness ในวันที่ 6 พฤษภาคม โดย Sam Raimi ผู้กำกับไตรภาค Spider-Man ยุคแรก รับหน้าที่กุมบังเหียนการสร้างภาคต่อของ Doctor Strange ที่ออกฉายเมื่อปี 2016 งานนี้ Doctor Strange จะได้ร่วมทีมกับ Wong และ Scarlet Witch ทำภารกิจที่สืบเนื่องจากเนื้อหาใน Spider-Man: No Way Home
ข้ามไปปลายปีกับ The Flash ในวันที่ 4 พฤศจิกายน หลังจากส่องแสงใน Justice League ของยอดผู้กำกับ Zack Snyder ก็ถึงเวลาที่หนุ่มน้อย Barry Allen ซึ่งรับบทโดย Ezra Miller ได้มีหนังของตัวเองบ้าง โดย The Flash ต้องเดินทางย้อนเวลากลับไปขัดขวางการฆาตกรรมแม่ของตัวเอง งานนี้มีมนุษย์ค้างคาวเป็นแขกรับเชิญถึง 2 คนคือ Ben Affleck และ Michael Keaton ในเมื่อ Marvel ทำได้กับไอ้แมงมุม ทำไม DC จะใช้มุกนี้บ้างไม่ได้
ตามมาติด ๆ ด้วย Black Panther: Wakanda Forever ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ซึ่งน่าสนใจทีเดียวว่าผู้กำกับ Ryan Coogler จะทำหนัง Black Panther ที่ไม่มี Chadwick Boseman ได้อย่างไร
