กระแส NFT หรือ non-fungible token กำลังรุกคืบหน้าเข้าไปยังวงการต่าง ๆ เพราะมันเป็นช่องทางใหม่ในการทำเงินสร้างรายได้ของคนสมัยนี้ รวมถึงในงานศิลปะแขนงต่าง ๆ เช่นเดียวกับผลงานเพลงก็ถูกสร้างเป็น NFT เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
NFT สามารถสร้างมูลค่าของเพลงให้สูงลิ่วเพราะ 1 ผลงานมีเจ้าของได้เพียงคนเดียว คล้ายกับภาพวาดในแกลเลอรี่หรือพิพิธภัณฑ์ ทำให้เพลงที่เคยซื้อจาก iTunes ด้วยเงิน 20 บาท กลับต้องถอนเงินจากธนาคารหลักแสน เนื่องจากเพลง NFT เจ้าของสามารถรับส่วนแบ่ง Royalty ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และอาจนำไปขายต่อเพื่อทำกำไรได้ด้วยหากศิลปินและเพลงนั้นโด่งดังขึ้นมาก ๆ
แต่ศิลปินที่จะสร้างสรรค์และสร้างเงินจากเพลง NFT ไม่เพียงต้องเก่งด้านดนตรี แต่ยังต้องมีคุณสมบัติสนับสนุนอีกหลายด้านเช่น ใช้เทคโนโลยีเป็น สร้างกระเป่าเงินดิจิทัล Wallet ได้ เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ คล่องตัวในการใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดีย ขยันผลิตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง และต้องมีความเพียรเป็นเลิศอย่างเช่น Daniel Allan ต้องทำงานวันละ 6-8 ชั่วโมงกับแพลตฟอร์ม Discord ราวกับมนุษย์เงินเดือนตอกบัตร เพื่อสร้างฐานแฟนคลับ
อย่างไรก็ตาม นักร้องนักดนตรีนักแต่งเพลงจะมีอิสระในการทำงานตามรูปแบบที่ตนเองต้องการ ไม่ต้องโดนตีกรอบความคิดจากค่ายเพลง ขณะที่แฟนเพลงก็จะได้สนับสนุนศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบโดยตรง ซึ่งทำให้ศิลปินมีรายได้สูงกว่าส่วนแบ่งค่า streaming หลายเท่าตัว
แต่ก็นั่นแหละ เหมือนกับศิลปินเพลงรูปแบบดั่งเดิม ใช่ว่าทุกคนจะสามารถมีชื่อเสียงและรวยได้ เพลง NFT ก็เป็นเพียงโมเดลใหม่ของธุรกิจดนตรี ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คนที่จะประสบความสำเร็จจริง ๆ ก็มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด
ดนตรี NFT เป็นเรื่องที่ใหม่มากและเพิ่งอยู่ในเฟสเริ่มต้นเท่านั้นคล้ายกับ Metaverse ที่กำลังถูกกล่าวขวัญอยู่ในช่วงปีที่ผ่านมา จึงมีพื้นที่สำหรับวิวัฒนาการและสร้างโอกาสอีกมาก แม้แต่ค่ายใหญ่อย่าง Warner Music Group และ Universal Music Group ยังเกาะกระแส NFT ด้วย แน่นอนศิลปินแขนงต่าง ๆ ในเมืองไทย ก็ขยับเข้าร่วมเทรนด์ NFT จึงเชื่อว่าในปี 2022 นี้ เราคงได้เห็นอะไรดี ๆ จากศิลปินในบ้านเราเช่นกัน
