Disney+ ทะลุเป้าหลังมีผู้ใช้มากกว่า 73 ล้านคนแล้วในปีนี้

21

สตรีมมิงแม้จะเป็นปีที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา 2019 ที่ทำให้หลายธุรกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงักไปหมด รวมไปถึงโรงภาพยนตร์ แต่ดูเหมือนว่า มันจะกลายเป็นผลดีกับวงการภาพยนตร์หนังออนไลน์ เมื่อล่าสุด Disney+ สตรีมมิงดังจากค่าย ดีสนีย์ ได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่น่าสนใจ ที่ในขณะนี้ พวกเขามีผู้สมัครที่ยอมจ่ายเงินและใช้งานมากถึง 73 ล้านคนแล้วในเวลานี้

ดูเหมือนว่า ทางบริการ Disney+  จะเติบโตได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก หากนับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2019ที่ผ่านมา พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นในการสร้างผู้ชมได้ถึง 73 ล้านคน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายสำหรับทาง ดิสนีย์ พอสมควร เพราะในเป้าหมายเบื้องต้น พวกเขาเคยคาดการณ์ไว้ว่า ก่อนปี 2024 มีผู้ใช้งานบริการดูหนังออนไลน์นี้ราว 60 ล้านคน ซึ่งนี่คือการประสบความสำเร็จทะลุเป้าครั้งใหญ่ของพวกเขา โดยมีผู้สมัครใช้งานมากถึง 60 ล้านคน ในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนแรกเท่านั้น

สำหรับกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ในเวลานี้คือ การที่ ดิสนีย์ นำภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดัง ๆ ที่ตนเองเป็นเจ้าของมาลงฉายใหม่ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่จาก Studio Marvel รวมไปถึงภาพยนตร์ชุด Star Wars รวมไปถึงการทำซีรีส์ภาคต่อ ที่สามารถหาชมได้เฉพาะทางทางบริการ Disney+  เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น The Mandalorian ตั้งแต่ปี 2019 ถึงปัจจุบัน, Obi-Wan Kenobi ปี 2021, The Falcon and The Winter Soldier ปี 2021, Wanda Vision ปี 2021, Loki ปี 2021 ซึ่งหนังเหล่านี้ได้ดึงดูดเหล่าแฟน ๆ ที่ต้องการเห็นภาคต่อของหนัง ที่พวกเขารักในรูปแบบอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี


สำหรับปัจจุบันนี้ ราคาค่าสมัครสมาชิกของ Disney+  อยู่ในราคา 6.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 250 บาทเท่านั้น และในขณะนี้ กำลังเปิดให้บริการมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และล่าสุด พวกเขากำลังขยายธุรกิจไปในโซนลาตินอเมริกาหลากหลายประเทศภายในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้

แต่ที่ประเทศไทยนั้น คงต้องรอต่อไป แต่ก็มีแนวโน้มว่า Disney+ อาจจะเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคอหนังบ้านเราก็เป็นได้

Previous articleสาวอวบแห่งหนัง Pitch Perfect ลดน้ำหนักจนกลายเป็นคนละคน
Next articleใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ยอมรับลุยงาน พักผ่อนน้อย เลยวูบกลางกอง