กลายเป็นประเด็นร้อนของวงการดนตรีไปแล้วในเวลานี้ เมื่อมีความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ 6 อัลบัมแรกของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ซึ่งทาง สกูเตอร์ บรอน (Scooter Braun) ผู้จัดการของ อะรีอานา กรานเด (Ariana Grande) และ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) ได้ซื้อต่อจาก Big Machine Records ค่ายเพลงเก่าของ สวิฟต์ ในราคา 300 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 9,000 ล้านบาท)
ต่อมาได้มีการยืนยันออกมาว่า บรอน ได้ขายลิขสิทธิ์ของเธอให้กับบริษัท Shamrock Holdings ไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจากเขาครอบครองมารวมระยะเวลากว่า 17 เดือนเต็ม ซึ่งการขายในครั้งนี้มีราคาสูงถึง 450 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 13,567 ล้านบาท )
ล่าสุด สวิฟต์ นักร้องสาวคนดังวัย 30 ปี ก็ได้ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ว่า ตอนที่ตัวแทนของ บรอน ได้ติดต่อไปยังทีมงานของเธอ ในการซื้อขายลิขสิทธิ์ แต่ทำไมตอนจบ มันกลับออกมาเป็นคนละเรื่อง (แทนที่จะขายให้ สวิฟต์ ที่เป็นผู้สร้างผลงานตัวจริง แต่กลับขายต่อให้บริษัทอี่น)
“ บรอน ติดต่อเข้ามาจริง ๆ และยื่นข้อเสนอให้กับฉันเพื่อซื้อลิขสิทธิ์มาสเตอร์เพลงดังของตัวเองคืนมา แต่จะต้องเซ็นสัญญา โดยไม่เปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด และถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดถึง บรอน ในด้านลบอีกด้วย ซึ่งฉันก็กำลังตัดสินใจกับทีมงานในเรื่องนี้ ”
ล่าสุด สวิฟต์ ได้เล่าต่ออีกว่า หลังจากที่ บรอน ได้ขายลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย โดยไม่บอกให้เธอทราบมาก่อนว่า ได้ขายให้ใคร ทว่าเจ้าของใหม่อย่าง Shamrock Holdings ก็ได้ส่งจดหมายไปให้เธอและทีมงาน พร้อมกับบอกว่า พวกเขาหวังว่า จะสามารถร่วมงานกับเธอได้ แม้ว่าพวกเขาจะถือลิขสิทธิ์เพลงของเธอก็ตาม
ซึ่งล่าสุด สวิฟต์ ได้ปฏิเสธไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในการร่วมงานกับ Shamrock Holdings เพราะเธอได้ทราบว่า บรอน ยังคงได้ผลตอบแทนอยู่ดีหากเธอเข้ามาร่วมงานกับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ใหม่นี้
