หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากกับหนังที่ตีแผ่ชีวิตของวง Oasis (โอเอซิส) อย่างเรื่อง Oasis : Supersonic มาในครั้งนี้ ได้มีหนังภาคแยกของสมาชิกแกนหลักนักร้องนำของวงอย่าง เลียม กัลลาเกอร์ ที่ถึงแม้ว่า วง Oasis ได้เลิกลาไปแล้วถึงระยะเวลา 10 กว่าปี แต่ชื่อเสียงของวงยังคงเป็นที่รู้จักกันดีในคอเพลงร็อค
Liam Gallagher : As It Was หรือชื่อไทยว่า “ เลียม กัลลาเกอร์ ตัวตนไม่เคยเปลี่ยน ” เป็นหนังที่จะเล่าเรื่องของตัวเขาล้วน ๆ โดยเหตุการณ์จะเริ่มต้นหลังจากที่เขาได้ออกจากวง เพราะความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงระหว่างเขาและพี่ชายอย่าง โนแอล กัลลาเกอร์ มือกีตาร์ของวง จนต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อปี 2009 และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ได้สิ้นสุดลงในตอนนั้น
ในตัวหนังได้บอกเล่าอย่างละเอียดมากพอสมควร ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เช่น การทำลายกีตาร์ราคาแพงระยับ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องดนตรีของทั้งคู่ นั้นจึงทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อกันได้อีกแล้ว
แต่หลังจากนั้น เลียม กลับมีเส้นทางชีวิตที่ตกต่ำเป็นอย่างมาก เขาไม่มีวง ไร้งานจ้าง และถูกฟ้องหย่าจากภรรยา รวมถึงสื่อที่พร้อมจะเล่นงานตัวเขาอยู่ตลอดเวลาซึ่งเขาต้องผ่านอุปสรรคมากมาย และต้องหาคนที่จริงใจกับตัวเขา เพื่อคอยช่วยเหลือเขา จนในท้ายที่สุด เขาสามารถสร้างวงใหม่ที่ชื่อว่า Beady Eye (บีดี อาย) และกลับมาประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง
สำหรับคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ หลายฝ่ายต่างมองว่า หนังตีแผ่เรื่องชีวิตการตกต่ำของเขาได้ไม่มากพอ ซึ่งปัญหาของเขาก็ดูเหมือนชีวิตของศิลปินทั่ว ๆ ไป ที่เคยโด่งดังสุดขีด และต้องเผชิญกับชื่อเสียงที่หายไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนในเรื่องคำชม ทุก ๆ ฉากของหนังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง จึงทำให้ตัวหนังไม่สามารถปรุงแต่งเหตุการณ์อะไรได้มากนัก แต่ถึงกระนั้น หนังได้ให้แง่คิดที่ดีว่า สุดท้ายแล้ว ชื่อเสียงไม่อยู่คู่กับเราตลอดไป แต่ครอบครัวเเละคนที่ดีกับเราต่างหากคือ มิตรแท้ถาวร
