โทนเนอร์ ใช้แบบไหน..ให้เหมาะกับผิวหน้า

1350

โทนเนอร์ (Toner) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ช่วยขจัดสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น เขม่าควัน ที่ยังตกค้างอยู่หลังจากเราล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า อย่าง โฟม เจล หรือสบู่ล้างหน้าแล้ว โทนเนอร์ยังช่วยปรับสภาพผิวเพื่อรองรับครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางค์ให้ติดผิวหน้าได้นานขึ้น โทนเนอร์บางยี่ห้อยังเพิ่มคุณสมบัติดีๆโทนเนอร์ เช่น ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว และยังช่วยรักษาสิวได้อีกด้วย

โทนเนอร์

บางคนยังสับสนว่าเราควรจะใช้โทนเนอร์ในขั้นตอนไหนดี บางคนเลือกที่จะใช้โทนเนอร์เช็ดก่อนแล้วค่อยล้างหน้าด้วยครีมล้างหน้า บางคนก็ใช้ทั้งก่อนและหลังการล้างหน้า แต่จริงๆแล้วเราจะใช้โทนเนอร์หลังจากที่ล้างหน้าให้สะอาดเสียก่อน หลังจากล้างหน้าด้วยโฟมแล้ว โดยใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน แล้วปิดท้ายการล้างหน้าด้วยน้ำเย็น เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวหน้า แล้วซับหน้าให้แห้งอย่างเบามือ

ต่อไปก็คือขั้นตอนการเช็ดด้วยโทนเนอร์แล้วคะ เทโทนเนอร์ลงบนแผ่นสำลี เช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอคะ เป็นการจบขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าคะ นอกจากนี้เรายังเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ในตอนเช้าอีกด้วยเพื่อเป็นการเช็ดเอาครีมบำรุงผิวต่างๆที่เราทาก่อนนอนและโทนเนอร์ยังช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับกับครีมบำรุงผิวที่จะทาลงไปใหม่ในตอนเช้าด้วยคะ เราควรทาครีมบำรุงผิวภายใน 1-2 นาที หลังจากใช้โทนเนอร์

โทนเนอร์ 

โดยทั่วไปแล้วโทนเนอร์จะมาในรูปแบบของน้ำหรือของเหลว (water-based liquid) ประกอบไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ น้ำมันสกัด ซึ่งจะใส่แตกต่างกันไปเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวต่างๆ เราสามารถแบ่งโทนเนอร์ได้ 2 ประเภท ได้แก่ โทนเนอร์เพื่อขจัดสิ่งสกปรก และโทนเนอร์เพื่อบำรุงผิว

  • ผิวธรรมดา และผิวผสม ควรเลือกโทนเนอร์ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันบนใบหน้า เพื่อป้องกันการเกิดสิวอุดตันและสิวอื่นๆ
  • ผิวมีปัญหาสิว ควรจะหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ยิ่งเป็นการเร่งการขับไขมันออกมามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
  • ผิวมัน ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน แต่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึ่งจะทำให้หน้าไม่มันเยิ้มคะ
  • ผิวแห้ง ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า ไม่กำจัดน้ำมันธรรมชาติบนผิวหน้ามากจนเกินไป แต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าแทน ควรหลีกเลี่ยงโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งมากขึ้น โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง เช่น โทนเนอร์สูตรน้ำนม โทนเนอร์แบบสเปรย์
  • ผิวหน้าที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยผลัดเซลล์ หรือมีส่วนผสมของสารที่ช่วยเรื่องริ้วรอยก็จะยิ่งดีคะ
  • ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก ปราศจากน้ำหอม แอลกฮอล์ เมทอล เป็นต้น และควรมีคุณสมบัติช่วยลดอาการแดงที่เกิดจากการแพ้ การระคายเคือง

สำหรับคนที่อยากจะทำโทเนอร์ไว้ใช้เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีต่างๆ เราก็มีมาแนะนำคะ

  • สำหรับทุกสภาพผิว นำชาเขียว1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1/2ช้อนชา มาผสมกันแล้วรอให้ส่วนผสมเย็น จึงใส่น้ำมันสกัดดอกมะลิสัก 3 หยด เพื่อเพิ่มความหอม แล้วก็นำบรรจุใส่ขวดเก็บไว้ หลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่อากาศร้อนนะคะ
  • สำหรับผิวธรรมดาและผิวมัน นำน้ำมะนาวผสมกับน้ำแอปเปิ้ลไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน แล้วนำน้ำแร่ 200 มิลลิลิตร มาผสม จึงบรรจุใส่ขวดเก็บไว้ เนื่องจากน้ำมะนาวมีคุณสมบัติเป็นกรดอาจกัดผิวหน้าได้ จึงแนะนำให้ใช้เพียง 1 ครั้งตอนเย็นเท่านั้นคะ

โทนเนอร์อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อผิวหน้า สาวๆไม่ควรพลาดนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง

โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นโทนเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ: medthai.com
โทนเนอร์คืออะไรดีมั้ย ต้องใช้หรือเปล่า?: wongnai.com
เลือกโทนเนอร์ยังไง ให้เหมาะกับสภาพผิวทั้ง แบบ: today.line.me

Previous articleขันธ์ ๕ หมายถึงอะไร มีอะไรบ้าง
Next articleมาร์คหน้า..ยังไงให้หน้าขาว หน้าสวยใส