วิธีขัดขี้ไคลแบบสะอาดหมดจรด … คนเราทุกคนล้วนมีขี้ไคลสะสมอยู่ตามบริเวณส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ขี้ไคลที่คอ ขี้ไคลขาหนีบ หรือขี้ไคลรักแร้ ฯลฯ ขี้ไคลเหล่านี้เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหนังกำพร้าอันเป็นเรื่องปกติของร่างกาย เมื่อสะสมมากๆเข้าก็จะกลายเป็นขี้ไคลที่ฝั่งแน่นอยู่ตามข้อพับ หรือบริเวณจุดซ่อนเร้นต่างๆได้
ภาพประกอบจาก pixabay.com
การเสื่อมสภาพของผิวหนัง ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่แตกต่างกัน เช่น อุณหภูมิ แสงแดด เหงื่อไคล การหมักหมม การเสียดสีของผิว ตลอดจนอายุของผิวที่ไม่เท่ากัน ฯลฯ ทำให้เกิดขี้ไคลตามส่วนต่างๆของร่างกาย และขี้ไคลก็ทำให้เกิดปัญหาผิวคล้ำเสียสะสม ทำให้จำเป็นต้องทำความสะอาดมากกว่าปกติ เรามาดูกันว่าจะมี วิธีขัดขี้ไคล ให้ออกแบบธรรมชาติได้อย่างไร และต้องใช้อะไรบ้างในการขัดขี้ไคล
วิธีขัดขี้ไคล ให้ออกแบบธรรมชาติ
มาดูวิธีการขัดขี้ไคลแบบธรรมชาติที่เรานำมาเสนอวันนี้ ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน ผู้อ่านสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม มีวิธีไหนบ้างตามมาดูกัน …
ใช้หินขัดขี้ไคล
ซึ่งหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เวลาอาบน้ำก็เอาน้ำราดตัว แล้วใช้สบู่ฟอกผิวที่ต้องการจะขัด เพื่อให้ขี้ใคลเกิดความอ่อนตัว แล้วจึงใช้หินขัดเบาๆ บริเวณที่มีขี้ไคล ขี้ไคลจะหลุดออกได้โดยง่าย แล้วจึงค่อยฟอกสบู่ล้างคราบขี้ไคลอีกครั้งให้สะอาด วิธีขัดขี้ไคลโดยใช้หินขัด เหมาะที่จะใช้ในบริเวณผิวหนังที่หยาบ เช่น ส้นเท้า หัวเข่า ข้อศอก ฯลฯ ถ้านำไปขัดผิวส่วนที่บอบบางตามตัวอาจจะทำให้ระคางเคือง และแสบผิวได้
ใช้ใยบวบขัดขี้ไคล
ใยบวบจะมีความอ่อนนุ่มกว่าหินขัดขี้ไคล จึงเหมาะสำหรับการนำมาขัดขี้ไคลได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยนำใยบวบแช่น้ำสักพัก เมื่อใยบวบอ่อนตัวลงก็สามารถนำมาขัดถูขี้ไคลตามร่างกายพร้อมกับการฟอกสบู่ได้เลย การใช้ใยบวบขัดขี้ไคลสามารถขัดได้บ่อยๆ ตามต้องการ ช่วยลดการสะสมของขี้ไคล และเป็นวิธีขัดขี้ไคลให้ออกแบบธรรมชาติที่ง่ายและสะดวก
ใช้เกลือขัดผิว
ปัจจุบันเกลือขัดผิวมีจำหน่ายตามร้านขายเครื่องสำอาง และร้านที่จำหน่ายสมุนไพร มีทั้งของต่างประเทศและผลิตในประเทศ โดยจะผสมวิตามินหรือสารบำรุงผิวเพิ่มเข้าไปให้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น และควรใช้ตามฉลากที่แนะนำ ซึ่งเป็นวิธีขัดขี้ไคลให้ออกง่ายขึ้น พร้อมทั้งบำรุงผิวไปในตัว แต่บางคนใช้ครั้งแรกๆ อาจจะรู้สึกแสบผิวบ้างเล็กน้อย เพราะเกลือกัด เนื่องจากผิวแพ้ความเค็ม
ใช้กากกาแฟหรือน้ำตาลทราย
เป็นวิธีขัดขี้ไคลแบบสครับผิวไปในตัว เพราะกากกาแฟหรือเกล็ดของน้ำตาลทรายจะมีความหยาบช่วยในการขัดถูผิวที่หยาบกร้านและเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก และสามารถทำได้ง่ายเพราะน้ำตาลทรายจะมีอยู่แล้วทุกบ้าน โดยนำมาผสมนมสด โยเกิร์ต หรือน้ำมะขามเปียกก็ได้แล้วแต่จะสะดวก ส่วนกากกาแฟอาจจะต้องไปขอตามร้านที่ขายกาแฟสด เพราะส่วนใหญ่ร้านพวกนี้ก็ทิ้ง แต่ก็มีกากกาแฟที่สำเร็จรูปแล้วออกวางจำหน่ายในท้องตลาดเหมือนกัน สามารถนำมาขัดตัวได้เลย ซึ่งก็เป็นวิธีขัดขี้ไคลที่สะดวกอีกวิธีหนึ่ง
ใช้มะนาวหรือมะขามเปียก
วิธีนี้เป็นวิธีขัดขี้ไคล โดยใช้กรดผลไม้หรือที่เรียกกันว่าAHA แบบสดๆ ไม่ต้องสกัด ซึ่งสะดวกและประหยัด เพราะถ้าบ้านใครมีการทำกับข้าวหรือดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำ ก็แค่นำมะขามเปียกหรือเปลือกมะนาวที่ใช้แล้วมาใช้ขัดขี้ไคลต่อได้เลยขี้ไคลจะหลุดง่าย ใช้ได้ดีกับผิวที่บอบบาง ใช้แล้วผิวจะขาวเนียนและอ่อนนุ่มขึ้น เป็นวิธีขัดขี้ไคลของคนโบราณที่บอกต่อๆกันมา
ใช้มือเปล่าหรือผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ
วิธีขัดขี้ไคลแบบนี้ เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด นิยมใช้กันมานาน เพราะเราสามารถทำพร้อมกับการอาบน้ำประจำวันได้ทุกวัน ไม่เสียเวลาเยอะ โดยทำให้ตัวเปียกสักพัก แล้วใช้มือขัดหรือผ้าขนหนูชุบน้ำขัดไปตามส่วนต่างๆของร่างกายที่มีขี้ไคลสะสมอยู่ ถ้ามีขี้ไคลสะสมอยู่มากก็ค่อยๆขัดไปเรื่อยๆ ขี้ไคลก็จะหลุดหมดเอง ไม่ต้องไปขัดแรงๆจนแสบผิว วิธีนี้เป็นวิธีขัดขี้ไคลที่ทำไปเรื่อยๆ แต่ถ้าทำได้บ่อยๆ ทำทุกวันร่างกายเราก็ไม่มีขี้ไคลสะสมแล้ว
วิธีขัดขี้ไคลมีหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและบริเวณที่มีขี้ไคลสะสมอยู่ เช่น บางคนอาจจะแพ้ความเค็ม ก็ไม่ควรใช้เกลือ หรือบางคนแพ้กรดวิตามินซี การใช้มะนาวหรือมะขามเปียกอาจจะทำให้ผิวแห้งและแสบผิวได้ ฯลฯ วิธีขัดขี้ไคลให้ออกแบบธรรมชาติควรทำบ่อยๆ เพื่อรักษาความสะอาดของผิวและป้องกันไม่ให้มีขี้ไคลสะสมมากเกินไป
ข้อมูลอ้างอิง
ขัดขี้ไคลด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งเจลขัดขี้ไคลหรือสบู่ขัดขี้ไคล : pantip.com