เด็กชักเกิดจากอะไร ? สิ่งที่ผู้ปกครองควรรู้เพื่อรับมือ

5

เด็กชักเกิดจากอะไร ?” การชักในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยและสร้างความกังวลให้กับผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุว่าเด็กชักเกิดจากอะไร และวิธีที่ผู้ปกครองสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างเหมาะสม ติดตามเลย

เด็กชักเกิดจาก

เด็กชักเกิดจากอะไร ?

อาการชักเกิดจากความผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในสมอง ซึ่งมีสาเหตุได้หลายประการ:

  1. ไข้สูง: พบบ่อยในเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี เรียกว่า “ชักจากไข้สูง” (Febrile Seizure)
  2. ความผิดปกติทางพันธุกรรม: เด็กชักเกิดจากบางโรคทางพันธุกรรมอาจส่งผลให้เกิดอาการชักได้
  3. การบาดเจ็บที่ศีรษะ: อุบัติเหตุที่ทำให้สมองกระทบกระเทือนอาจนำไปสู่อาการชัก
  4. การติดเชื้อในสมอง: เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือสมองอักเสบ
  5. ภาวะออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ: เด็กชักเกิดจากการจมน้ำหรือภาวะหัวใจหยุดเต้นได้เช่นกัน
  6. เนื้องอกในสมอง: แม้พบได้ไม่บ่อยในเด็ก แต่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการชัก
  7. โรคลมชัก: เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดอาการชักซ้ำ ๆ

สัญญาณและอาการของการชักในเด็ก

อาการชักอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่สัญญาณทั่วไปที่ควรสังเกต ได้แก่:

  • การเกร็งหรือกระตุกของแขนขาอย่างควบคุมไม่ได้
  • การเหม่อลอยหรือไม่ตอบสนองชั่วขณะ
  • การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ เช่น การกะพริบตาถี่ ๆ หรือเคี้ยวปาก
  • การสูญเสียการควบคุมการขับถ่าย
  • การหมดสติ

สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำเมื่อเด็กมีอาการชัก

  1. รักษาความสงบ: แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่การตั้งสติจะช่วยให้คุณจัดการสถานการณ์ได้ดีขึ้น
  2. จับเวลา: สังเกตว่าอาการชักเริ่มเมื่อไหร่และนานเท่าไร เพื่อแจ้งแพทย์
  3. ป้องกันการบาดเจ็บ: นำสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายออกจากบริเวณใกล้ตัวเด็ก
  4. จัดท่านอนตะแคง: เพื่อป้องกันการสำลักน้ำลาย
  5. ห้ามใส่สิ่งใดเข้าปากเด็ก: อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือสำลักได้
  6. อย่าพยายามยึดตัวเด็กไว้: ปล่อยให้อาการชักดำเนินไปตามธรรมชาติ
  7. สังเกตอาการหลังชัก: เด็กอาจรู้สึกสับสนหรือง่วงซึม ให้ปลอบโยนและดูแลอย่างใกล้ชิด

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันทีในกรณีต่อไปนี้:

  • เป็นการชักครั้งแรก
  • อาการชักนานเกิน 5 นาที
  • เด็กไม่ฟื้นสติหลังอาการชักสงบลง
  • เด็กมีอาการชักซ้ำภายในเวลา 24 ชั่วโมง
  • เด็กมีอาการบาดเจ็บระหว่างชัก
  • เด็กมีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น เบาหวานหรือโรคหัวใจ

การป้องกันและการดูแลระยะยาว

แม้ว่าไม่สามารถป้องกันอาการชักได้ทั้งหมด แต่มีวิธีลดความเสี่ยง ดังนี้:

  1. ควบคุมไข้: ให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำของแพทย์เมื่อเด็กมีไข้
  2. ป้องกันการบาดเจ็บที่ศีรษะ: ใช้อุปกรณ์ป้องกันเมื่อทำกิจกรรมเสี่ยง
  3. รับวัคซีนตามกำหนด: ป้องกันโรคติดเชื้อที่อาจนำไปสู่อาการชัก
  4. ทานยาตามแพทย์สั่ง: หากเด็กได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก
  5. สังเกตอาการผิดปกติ: หากพบความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

สรุป

อาการชักในเด็กอาจเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวสำหรับผู้ปกครอง แต่การเข้าใจถึงสาเหตุว่าเด็กชักเกิดจากอะไร และวิธีรับมือจะช่วยให้คุณจัดการสถานการณ์ได้ดีขึ้น การพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและรับคำแนะนำในการดูแลระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการดูแลที่เหมาะสม เด็กส่วนใหญ่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตอย่างแข็งแรงได้ แม้จะมีภาวะที่ทำให้เกิดอาการชัก

Previous articleการนวดเชียงใหม่สวรรค์แห่งการผ่อนคลาย
Next articleเลือกเครื่องอบผ้าแห้งให้คุ้มค่า หมดปัญหาผ้าไม่แห้งในหน้าฝน